ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แห่งสหรัฐฯ ซึ่งเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 20 ม.ค.นั้น สัญญาว่าจะยุติสงครามรัสเซีย-ยูเครนโดยเร็ว แต่ไม่ได้ระบุว่าจะดำเนินการอย่างไร ขณะที่ผู้ช่วยของทรัมป์ระบุว่าอาจต้องใช้เวลาหลายเดือน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ทรัมป์ได้แสดงท่าทีว่าพร้อมพูดคุยกับประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย เพื่อหาทางยุติสงคราม ซึ่งแตกต่างจากรัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครต ที่หลีกเลี่ยงการติดต่อกับผู้นำรัสเซีย
ชัยชนะของทรัมป์ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนพ.ย. 2567 ทำให้เกิดความหวังในการแก้ไขปัญหาด้วยการทูตเพื่อยุติการรุกรานของรัสเซียที่เริ่มขึ้นตั้งแต่เดือนก.พ. 2565 อย่างไรก็ตาม ชัยชนะนั้นก็ได้สร้างความกังวลให้กับยูเครนว่า การทำข้อตกลงสันติภาพที่รวดเร็วอาจทำให้ยูเครนต้องเสียผลประโยชน์อย่างมาก
“เราต้องการให้เขา (ทรัมป์) อยู่ข้างความยุติธรรม อยู่ข้างยูเครน” เซเลนสกีกล่าวในการให้สัมภาษณ์ที่ออกอากาศเมื่อคืนวันอังคาร (28 ม.ค.) “ปูตินไม่เกรงกลัวยุโรป”
เซเลนสกีระบุเสริมว่า ยูเครนไม่สามารถยอมรับการยึดครองของรัสเซียได้ แต่ต้องการแก้ไขปัญหาผ่านวิธีทางการทูต
ด้านทำเนียบขาวยังไม่มีความเห็นในทันทีเกี่ยวกับเรื่องนี้
ทั้งนี้ นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครน สหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ให้ความช่วยเหลือแก่ยูเครนมากกว่า 1.75 แสนล้านดอลลาร์ รวมถึงความช่วยเหลือด้านความมั่นคงกว่า 6 หมื่นล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม ยังไม่แน่ชัดว่าการสนับสนุนในระดับนี้จะดำเนินต่อไปภายใต้รัฐบาลของปธน.ทรัมป์หรือไม่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ม.ค. 68)
Tags: ประธานาธิบดีสหรัฐ, ยุโรป, ยูเครน, รัสเซีย, วลาดิเมียร์ ปูติน, สหรัฐ, โดนัลด์ ทรัมป์, โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี