โฆษกเลขาธิการสหประชาชาติ (UN) เปิดเผยเมื่อวันอังคาร (28 ม.ค.) ว่า สหรัฐฯ ได้แจ้งต่อ UN ถึงแผนการถอนตัวอีกครั้งจากความตกลงปารีสว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยจะมีผลอย่างเป็นทางการในเดือนม.ค. 2569
รายงานระบุว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ซึ่งแสดงความคลางแคลงใจต่อหลักวิทยาศาสตร์ว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ได้สั่งการให้ผู้แทนสหรัฐฯ ประจำ UN ดำเนินการถอนตัวจากความตกลงดังกล่าวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
สเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษก UN แถลงต่อสื่อมวลชนว่า สหรัฐฯ ได้ยื่นหนังสือแจ้งการถอนตัวต่อ UN เมื่อวันจันทร์ (27 ม.ค.) และจะถอนตัวอย่างเป็นทางการในวันที่ 27 ม.ค. ปีหน้า ซึ่งเป็นไปตามเงื่อนไขของข้อตกลง
“เรายืนยันในความมุ่งมั่นของเราต่อความตกลงปารีส และพร้อมสนับสนุนความพยายามทุกรูปแบบที่จะจำกัดไม่ให้อุณหภูมิโลกเพิ่มขึ้นเกิน 1.5 องศาเซลเซียส” ดูจาร์ริกกล่าว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า สหรัฐฯ เคยเข้าร่วมเป็นภาคีข้อตกลงนี้ที่มีผลบังคับใช้ในปี 2559 ภายใต้การนำของประธานาธิบดีบารัค โอบามา ก่อนจะถอนตัวครั้งแรกในเดือนพ.ย. 2563 ช่วงปลายสมัยแรกของปธน.ทรัมป์
ปธน.ทรัมป์เคยวิพากษ์วิจารณ์มาตรการควบคุมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศภายใต้ความตกลงนี้ ตั้งแต่ก่อนเข้ารับตำแหน่งในปี 2560 แต่กฎระเบียบห้ามไม่ให้ประเทศภาคีประกาศถอนตัวเป็นเวลา 3 ปี
ทั้งนี้ การประชุมว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 29 เมื่อปีที่ผ่านมาได้กำหนดเป้าหมายให้ประเทศพัฒนาแล้วมอบความช่วยเหลือแก่ประเทศกำลังพัฒนาปีละ 3 แสนล้านดอลลาร์ภายในปี 2578 แต่การถอนตัวของสหรัฐฯ ทำให้เป้าหมายดังกล่าวบรรลุผลได้ยากขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ม.ค. 68)
Tags: UN, ความตกลงปารีส, สภาพภูมิอากาศ, สหประชาชาติ, โดนัลด์ ทรัมป์