แคโรไลน์ เลวิตต์ โฆษกหญิงประจำทำเนียบขาว เปิดเผยในวันอังคาร (28 ม.ค.) ว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงมีแผนจะรักษาคำมั่นสัญญาของตนเองที่ว่าจะเรียกเก็บภาษีจากแคนาดาและเม็กซิโกในวันเสาร์นี้ (1 ก.พ.)
นอกจากนี้ เลวิตต์ยังกล่าวกับนักข่าวในการแถลงข่าว ณ ทำเนียบขาวครั้งแรกของเธออีกว่า ทรัมป์ยังคงพิจารณาอัตราภาษีศุลกากรใหม่กับจีน “อย่างจริงจัง” ในวันเสาร์นี้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ หลังจากเข้ารับตำแหน่งเมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้เพียงไม่นาน ทรัมป์ได้กำหนดเส้นตายปรับขึ้นภาษีศุลกากร 25% สำหรับสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกและแคนาดาในวันที่ 1 ก.พ. เว้นแต่ทั้งสองชาติจะสามารถจัดการกับผู้อพยพผิดกฎหมายและสารเสพติดเฟนทานิลที่เข้าสู่สหรัฐฯ และขู่จะเรียกเก็บภาษีสินค้าจีน 10% เนื่องจากมีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าเฟนทานิล
เมื่อถามเกี่ยวกับเส้นตายในวันเสาร์นี้ของแคนาดาและเม็กซิโก เลวิตต์ระบุว่า ทรัมป์ยังคง “ตัดสินใจเช่นนั้นอยู่”
“เราได้เห็นความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์จากเม็กซิโก อย่างไรก็ตาม เท่าที่ดิฉันทราบจากการพูดคุยกับท่านประธานาธิบดีโดยตรงเมื่อคืนนี้ เส้นตายในวันที่ 1 ก.พ. ยังคงอยู่” เลวิตต์กล่าว อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้ระบุอย่างชัดเจนว่า ความเคลื่อนไหวใดของแคนาดา เม็กซิโก และจีนที่จะทำให้ทั้งสามประเทศรอดพ้นจากมาตรการภาษีของทรัมป์ได้
โดยก่อนหน้านี้เมื่อปลายเดือนพ.ย. ทรัมป์ออกมาขู่เป็นครั้งแรกว่าจะเก็บภาษีศุลกากรเพื่อลงโทษ และกล่าวว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงแผนจนกว่ากระแสการอพยพและยาเสพติดจะหยุดลง
เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา (26 ม.ค.) รัฐบาลโคลอมเบียตกลงยอมถอยและรับการเนรเทศผู้อพยพผิดกฎหมายจากสหรัฐฯ ซึ่งรวมถึงการส่งตัวผ่านเครื่องบินทหาร หลังจากทรัมป์ขู่ว่าจะขึ้นภาษีนำเข้า 25% ซึ่งในตอนแรกประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตร แห่งโคลอมเบีย ปฏิเสธ และขู่ตอบโต้ด้วยการขึ้นภาษีนำเข้าเท่ากับที่ทรัมป์ทำ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (29 ม.ค. 68)
Tags: ทำเนียบขาว, เก็บภาษี, เม็กซิโก, แคนาดา, แคโรไลน์ เลวิตต์, โดนัลด์ ทรัมป์