สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างบันทึกภายในถึงพนักงานวันนี้ (28 ม.ค.) ว่า HSBC เตรียมเลิกทำธุรกิจด้านการควบรวมกิจการ (M&A) และด้านตลาดตราสารทุน (ECM) ในยุโรป, สหราชอาณาจักร (UK) และทวีปอเมริกา ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างครั้งใหญ่ในธุรกิจวาณิชธนกิจ
“…เรามุ่งที่จะปรับโมเดลธุรกิจให้แข่งขันได้ดีขึ้น ขยายตัวได้ง่ายขึ้น และเน้นด้านการให้สินเชื่อมากขึ้น” ไมเคิล โรเบิร์ตส์ ซีอีโอของ HSBC Bank ในเครือบริษัท HSBC กล่าวในบันทึกภายในดังกล่าว
บันทึกภายในระบุว่า “เราจะยังคงให้บริการด้าน M&A และตลาดตราสารทุนในเอเชียและตะวันออกกลางต่อไป แต่จะทยอยปิดตัวในยุโรป, UK และทวีปอเมริกา”
จอร์จ เอลเฮเดอรี ซีอีโอคนใหม่ของเครือ HSBC กำลังผลักดันมาตรการลดต้นทุนครั้งใหญ่ซึ่งเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังจากที่เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนก.ย.
การปรับโครงสร้างครั้งใหญ่นี้มุ่งเน้นการจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพ ปรับโฟกัสธุรกิจให้แคบลง และเพิ่มความรับผิดชอบต่อผลการดำเนินงาน อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์หลายคนยังสงสัยว่า เอลเฮเดอรีจะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากแค่ไหน และธุรกิจส่วนใดบ้างที่จะได้รับผลกระทบ
ธนาคารที่มีฐานธุรกิจหลักในเอเชียแห่งนี้จะยังคงดำเนินธุรกิจตลาดตราสารหนี้และการให้สินเชื่อเพื่อซื้อกิจการต่อไปทั่วโลก โดยโรเบิร์ตส์แจ้งกับพนักงานผ่านบันทึกภายในพร้อมยอมรับว่า ข่าวนี้คงสร้างความกังวลให้กับพนักงาน HSBC ในภูมิภาคเหล่านั้นที่ทำหน้าที่ให้คำปรึกษาด้านการควบรวมกิจการและการระดมทุนผ่านตราสารทุน เช่น การเสนอขายหุ้น IPO
“จำไม่ได้แล้วด้วยซ้ำว่า HSBC เข้า ๆ ออก ๆ ธุรกิจ ECM ใน UK มากี่รอบ แต่ดูเหมือนจะไม่ประสบความสำเร็จสักที” แกรี กรีนวูด นักวิเคราะห์จาก Shore Capital ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์
“จริง ๆ แล้ว ธุรกิจพวกนี้ต้นทุนสูงมาก ถ้าคุณไม่สามารถชนะใจลูกค้าและสร้างรายได้ค่าธรรมเนียมได้ ก็ขาดทุนได้ง่าย ๆ”
อย่างไรก็ตาม หุ้น HSBC แทบไม่ได้รับผลกระทบจากข่าวนี้ โดยล่าสุดปรับตัวลงเพียง 0.68% ส่งผลให้มูลค่าธนาคารอยู่ที่ราว 1.47 แสนล้านปอนด์ (1.829 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ)
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ม.ค. 68)
Tags: HSBC, M&A, ตลาดตราสารทุน, ทวีปอเมริกา, ปรับโครงสร้าง, ยุโรป, สหราชอาณาจักร