น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ที่ประชุมครม. ได้อนุมัติงบกลางในปี 2568 ภายใต้มาตรการรับบริการไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละออง พ.ศ. 2568 วงเงินรวมทั้งสิ้น 620 ล้านบาท ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ซึ่งจากมาตรการดังกล่าวได้มีข้อสั่งการและกำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมป่าไม้ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่าในการเร่งแก้ไขปัญหาและรับมือในการป้องกันสถานการณ์ของไฟป่า รวมถึงปัญหาฝุ่นละอองและควันตามที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ต่าง ๆ
แผนมาตรการการจัดการปัญหาฝุ่น PM 2.5 ตามภารกิจแต่ละกระทรวง
– กระทรวงมหาดไทย สั่งให้หน่วยภาครัฐ ผู้ว่าราชการจัดหวัดทั่วประเทศ รับมือกับภัยพิบัติครั้งนี้ โดยให้ดำเนินการออกประกาศห้ามเผา รวมถึงให้มีการดำเนินการจัดการบริหารซังข้าวโพด ต้นอ้อยแห้งเป็นการฝังกลบแทนการเผา การจัดการโดยวิธีการทำปุ๋ยอินทรีย์และการจัดการโดยวิธีการใช้เครื่องแพ็กฟาง ตลอดจนดำเนินการบูรณาการร่วมกับหน่วยงานความมั่นคง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในการเตรียมการจัดการรับมือการดับไฟป่า
– กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีมาตรการให้มีการดูแลกลุ่มเปราะบางต่าง ๆ ด้วยการมอบและแจกจ่ายหน้ากาก N95 อีกทั้งมาตรการในการรองรับกลุ่มผู้เปราะบาง ผู้ป่วย และเด็ก ด้วยห้องปลอดฝุ่น (Clean Room)
– กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีมาตรการปฏิบัติการเชิงรุกที่จังหวัดเชียงใหม่โดยใช้งบกลางที่ได้มีจัดสรรในการจัดจ้างบุคลากร ให้มีการดำเนินการเข้ามาดูแลพื้นที่ ดูแลเรื่องของปัญหาไฟป่า
– กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มีมาตรการดำเนินมาตรการไม่ให้มีการเผาในทุกพื้นที่การเกษตร โดยหากพบเจอว่ามีการเผาให้มีการดำเนินการตัดสิทธิการสนับสนุนเงินเยียวยาจากรัฐบาล โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 68 – 31 พฤษภาคม 69 และนอกจากนี้ จะมีการดำเนินการการใช้ปฏิบัติการฝนหลวง ในการจัดการปัญหาลดฝุ่นละอองในอากาศ
– กระทรวงอุตสาหกรรม มีมาตรการในการขอความร่วมมือโรงงานและสมาคมชาวไร่อ้อย ไม่ให้มีการรับอ้อยที่มาจากการเผาเกิน 25% ต่อวัน ซึ่งกระทรวงอุตสาหกรรมได้เน้นย้ำมากในเรื่องนี้ และได้ผลเป็นอย่างดี ซึ่งสถิติลดเหลือต่ำมากเหลือ 10% ต่อวัน ขณะเดียวกันทุกโรงงานก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ขอขอบคุณทุกโรงงานที่ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี นอกจากนี้ ยังมีมาตรการทำใบอ้อยให้มีมูลค่าแทนการเผา เพื่อนำไปขายให้กับโรงงานที่ใช้พลังงาน ซึ่งจะช่วยสร้างรายได้ให้เกษตรกร
– กระทรวงการต่างประเทศ ได้ร่วมมือกับอาเซียน ซึ่งได้รับความร่วมมือจาก สปป.ลาว กัมพูชา เมียนมา และมีกรอบความร่วมมือด้านนโยบายให้เกิดความชัดเจนกับประเทศภูมิภาคเอเชีย และประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ที่จะให้ความร่วมมือด้านเทคนิค และด้านความรู้ของแต่ละประเทศ ซึ่งจะสามารถสนับสนุนซึ่งกันและกันได้
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นายกรัฐมนตรี ได้มีข้อสั่งการในที่ประชุมครม. ถึงการแก้ปัญหา PM 2.5 พร้อมย้ำกระทรวงอุตสาหกรรมกวดขันอย่างเข้มงวด และหามาตรการเพิ่มเติม เพื่อลดการเผาอ้อย ซึ่งเป็นสาเหตุหลักของฝุ่น PM 2.5
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ม.ค. 68)
Tags: กระทรวงการต่างประเทศ, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, ประชุมครม., ฝุ่น PM 2.5, ฝุ่นละออง, หมอกควัน, แพทองธาร ชินวัตร, ไฟป่า