ข้อมูลจากผู้ค้าน้ำมันและข้อมูลการขนส่งบ่งชี้ว่า การค้าน้ำมันของรัสเซียที่จะส่งมอบในเดือนมี.ค.ให้กับภูมิภาคเอเชียซึ่งเป็นผู้ซื้อรายใหญ่ที่สุดนั้นชะลอตัวลง เนื่องจากผู้ซื้อและผู้ขายในจีนไม่สามารถตกลงราคากันได้ โดยสาเหตุเกิดจากการที่ค่าเช่าเรือบรรทุกน้ำมันที่ไม่ได้รับผลกระทบจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ นั้นปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก
เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา สหรัฐฯ ได้ดำเนินมาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่โดยมุ่งเป้าไปที่ห่วงโซ่อุปทานน้ำมันของรัสเซีย ส่งผลให้ค่าระวางเดินเรือพุ่งสูงขึ้น เนื่องจากผู้ซื้อบางรายและท่าเรือในจีนและอินเดียต้องหลีกเลี่ยงเรือที่ถูกคว่ำบาตร
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ราคาเสนอขายสำหรับน้ำมัน ESPO Blend ที่รัสเซียส่งออกจากท่าเรือ Kozmino เพื่อส่งมอบในเดือนมี.ค.ได้เพิ่มขึ้น 3-5 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลเมื่อเทียบกับน้ำมัน ICE Brent ตามเงื่อนไขการส่งมอบ Delivered Ex Ship ( DES ) ให้กับจีน หลังจากค่าระวางเรือ Aframax ในเส้นทางนี้เพิ่มขึ้นหลายล้านดอลลาร์
ก่อนที่จะมีการคว่ำบาตรในเดือนม.ค. ความต้องการน้ำมันในช่วงฤดูหนาวที่แข็งแกร่งและราคาที่แข็งแกร่งขึ้นสำหรับน้ำมันเกรดคู่แข่งจากอิหร่านทำให้ค่าพรีเมียมสำหรับน้ำมันดิบ ESPO Blend ไปยังจีนเพิ่มขึ้นเกือบ 2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เริ่มสงครามในยูเครนในปี 2565
ในอินเดียนั้น หัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงินของภารัต ปิโตรเลียม คอร์ป (Bharat Petroleum Corp) กล่าวเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่าไม่ได้รับข้อเสนอใหม่สำหรับการจัดส่งน้ำมันในเดือนมี.ค. และคาดว่าจำนวนตู้สินค้าที่เสนอสำหรับเดือนมี.ค.จะลดลงจากเดือนม.ค.และธ.ค.
ทั้งนี้ อินเดียนำเข้าน้ำมันรัสเซียคิดเป็น 36% ของการนำเข้าน้ำมันทั้งหมด และจีนนำเข้าน้ำมันรัสเซียเกือบ 1 ใน 5 ของการนำเข้าน้ำมันทั้งหมดในปี 2567
เคปเลอร์ (Kpler) ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์เปิดเผยว่า การคว่ำบาตรล่าสุดมุ่งเป้าไปที่เรือบรรทุกน้ำมันที่ขนส่งน้ำมันรัสเซียประมาณ 42% ของการส่งออกน้ำมันทางทะเลของรัสเซีย ซึ่งโดยส่วนใหญ่ขนส่งไปยังจีน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ม.ค. 68)
Tags: คว่ำบาตร, จีน, น้ำมัน, รัสเซีย, อินเดีย