มาโกโตะ ซากุราอิ อดีตสมาชิกคณะกรรมการของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) เปิดเผยในวันนี้ (28 ม.ค.) ว่า BOJ มีแนวโน้มที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในช่วงเดือนมิ.ย.หรือก.ค. และอาจตั้งเป้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายแตะ 1.5% เป็นอย่างน้อยภายใน 2 ปีข้างหน้า
ซากุราอิ ซึ่งยังคงมีการติดต่อใกล้ชิดกับผู้กำหนดนโยบายของ BOJ ในปัจจุบันระบุว่า การขึ้นค่าจ้างอย่างต่อเนื่อง, ความเป็นไปได้ของราคาจะเพิ่มขึ้นอย่างยั่งยืน และการเติบโตทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของญี่ปุ่น ทำให้ BOJ มีโอกาสที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า BOJ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็น 0.5% จาก 0.25% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แม้ยังมีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากนโยบายของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ก็ตาม
“BOJ จะใช้โอกาสใด ๆ ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยโดยไม่รอช้า ผมคิดแบบนี้เพราะ BOJ ปรับขึ้นดอกเบี้ยในเดือนม.ค.แทนที่จะรอจนถึงเดือนมี.ค.” ซากุราอิกล่าวในการสัมภาษณ์กับรอยเตอร์
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า BOJ อาจเลื่อนเวลาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งถัดไปเป็นเดือนเม.ย. หากต้องการดำเนินการก่อนความไม่แน่นอนทางการเมืองในประเทศจะเพิ่มขึ้นก่อนการเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาที่น่าจะเกิดขึ้นในเดือนก.ค.
“หากเศรษฐกิจดำเนินไปตามการคาดการณ์ BOJ อาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 0.75% ในช่วงเดือนมิ.ย.หรือก.ค. แต่ช่วงเวลาอาจถูกกำหนดโดยสถานการณ์การเมืองในประเทศ” ซากุราอิกล่าว ขณะที่รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ กำลังเผชิญกับสถานะทางการเมืองที่อ่อนแอและได้รับการสนับสนุนจากประชาชนที่ระดับต่ำ
BOJ จะประชุมกำหนดนโยบายครั้งถัดไปในวันที่ 18-19 มี.ค. และครั้งถัดไปอีกในวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. ซึ่งจะมีการเปิดเผยการคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจและเงินเฟ้อรายไตรมาสฉบับใหม่
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ม.ค. 68)
Tags: BOJ, ดอกเบี้ยนโยบาย, ธนาคารกลางญี่ปุ่น