เครื่องบินทหารสหรัฐฯ ลงจอดในกัวเตมาลา พร้อมผู้อพยพที่ถูกส่งกลับประเทศ

ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ยังคงใช้เครื่องบินทหารส่งผู้อพยพกลับประเทศต่อเนื่องในวันจันทร์ (27 ม.ค.) โดยส่งผู้อพยพอีกเที่ยวบินไปยังกัวเตมาลา เพียงหนึ่งวันหลังจากที่สหรัฐฯ เกือบจะเกิดสงครามการค้ากับโคลอมเบีย หลังจากที่โคลอมเบียไม่ยอมให้เครื่องบิน C-17 ลงจอด

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ขอไม่เปิดเผยชื่อว่า เครื่องบินลำดังกล่าวบินจากรัฐเท็กซัสมาลงจอดที่กัวเตมาลาในช่วงบ่ายวันจันทร์ โดยเครื่องบินลำเลียงทางทหารลำนี้มีผู้โดยสารทั้งหมด 64 คน

ท่ามกลางความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯ-โคลอมเบียที่ยังไม่คลี่คลาย โคลอมเบียประกาศเมื่อวันจันทร์ว่าจะส่งเครื่องบินกองทัพอากาศของตนไปรับผู้อพยพที่ทรัมป์ต้องการส่งกลับประเทศ โคลอมเบียระบุว่านี่เป็นทางออกที่ทั้งสองฝ่าย “วิน-วิน” ซึ่งทำให้เกิดข้อกังขาต่อคำกล่าวของทำเนียบขาวเมื่อวันอาทิตย์ (26 ม.ค.) ที่ว่า โคลอมเบียยอมอ่อนข้อตามความต้องการของทรัมป์ที่จะให้รับเที่ยวบินทหารส่งผู้อพยพกลับประเทศ

ที่สนามกอล์ฟโดรัล ปธน.ทรัมป์กล่าวต่อหน้าสมาชิกพรรครีพับลิกันว่า เขาจะยังคงใช้เครื่องบินทหารในการส่งผู้อพยพกลับประเทศต่อไป ซึ่งไม่เคยมีใครทำมาก่อน พร้อมทั้งชี้ว่าการเผชิญหน้ากับโคลอมเบียเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เป็นชัยชนะในการปราบปรามผู้อพยพ

“นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่เราตามหาและนำตัวคนต่างด้าวผิดกฎหมายขึ้นเครื่องบินทหาร แล้วส่งพวกเขากลับประเทศต้นทาง” ทรัมป์กล่าวขณะที่ผู้ฟังปรบมือให้

“เรากลับมาได้รับความเคารพอีกครั้ง หลังจากหลายปีที่พวกเขาหัวเราะเยาะเรา เหมือนว่าเราเป็นคนโง่”

เที่ยวบินเมื่อวันจันทร์เป็นเที่ยวบินที่สามที่ลงจอดในกัวเตมาลาสำเร็จ นับตั้งแต่เริ่มมาตรการใช้เครื่องบินทหารในการเนรเทศเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยดูเหมือนว่ากัวเตมาลาจะเป็นประเทศเดียวที่ยอมรับเที่ยวบินทหารที่บรรทุกผู้อพยพ

เมื่อวันอาทิตย์ ประธานาธิบดีกุสตาโว เปโตร แห่งโคลอมเบีย ประณามว่า การใช้เครื่องบินทหารในการเนรเทศเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรม และยกเลิกการอนุมัติให้เครื่องบิน C-17 สองลำลงจอดในประเทศของเขา หลังจากที่เครื่องบินดังกล่าวได้บินขึ้นจากรัฐแคลิฟอร์เนียแล้ว

ทรัมป์ตอบโต้ในทันที โดยขู่ว่าจะใช้มาตรการภาษีนำเข้าและคว่ำบาตรที่รุนแรงต่อโคลอมเบียเพื่อเป็นการลงโทษ

“อย่างที่คุณเห็นเมื่อวานนี้ เราได้ส่งสัญญาณชัดเจนถึงทุกประเทศแล้วว่า พวกเขาต้องรับคนที่เราส่งกลับไป … และถ้าไม่ยอมรับ ก็ต้องเตรียมรับผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างหนัก” ทรัมป์กล่าว

โคลอมเบียได้ออกแถลงการณ์ในเชิงประนีประนอมในช่วงเย็นวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นการยุติสถานการณ์ตึงเครียดดังกล่าว

ทั้งนี้ สงครามการค้าอาจส่งผลร้ายแรงต่อโคลอมเบีย เพราะสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าที่สำคัญที่สุดของประเทศ โดยเฉพาะหลังจากที่มีการลงนามข้อตกลงการค้าเสรีในปี 2549 ซึ่งทำให้ทั้งสองประเทศมีมูลค่าการค้าระหว่างกันสูงถึง 3.38 หมื่นล้านดอลลาร์ในปี 2566 ตามตัวเลขของสำนักงานสำมะโนประชากรสหรัฐฯ

การที่กองทัพสหรัฐฯ นำเครื่องบินทหารมาใช้ส่งตัวผู้อพยพกลับประเทศ ถือเป็นหนึ่งในมาตรการที่เพนตากอนดำเนินการตามที่ทรัมป์ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินด้านคนเข้าเมืองเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

กระทรวงกลาโหมแถลงเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า กองทัพสหรัฐฯ จะจัดเที่ยวบินสำหรับการเนรเทศผู้อพยพกว่า 5,000 คนที่ถูกควบคุมตัวโดยเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ในเมืองเอลพาโซ รัฐเท็กซัส และเมืองซานดิเอโก รัฐแคลิฟอร์เนีย

ในอดีต เครื่องบินทางทหารสหรัฐฯ เคยถูกใช้เพื่อเคลื่อนย้ายบุคคลจากประเทศหนึ่งไปยังอีกประเทศหนึ่ง เช่น ในช่วงการถอนกำลังสหรัฐฯ ออกจากอัฟกานิสถานในปี 2564

เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ คนหนึ่งกล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกเท่าที่จำได้ที่เครื่องบินทางทหารสหรัฐฯ ถูกใช้เพื่อขนส่งผู้อพยพออกจากประเทศ

นอกจากนี้ ทรัมป์ยังได้สั่งการให้กองทัพสหรัฐฯ ช่วยเหลือด้านความมั่นคงชายแดน ออกคำสั่งห้ามการลี้ภัยในวงกว้าง และดำเนินการเพื่อจำกัดสัญชาติสำหรับเด็กที่เกิดบนแผ่นดินสหรัฐฯ

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ม.ค. 68)

Tags: , , , , , ,
Back to Top