บริษัทวิจัยโร โมชัน (Rho Motion) คาดการณ์ในวันนี้ (28 ม.ค.) ว่า ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า (EV) เต็มรูปแบบและรถยนต์ปลั๊กอินไฮบริดทั่วโลกจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 17% ในปี 2568 สู่ระดับมากกว่า 20 ล้านคัน โดยได้รับแรงหนุนจากการขยายระยะเวลาโครงการเงินอุดหนุนการแลกเปลี่ยนรถยนต์ในจีน
ไอโอลา ฮิวส์ หัวหน้าฝ่ายวิจัยของโร โมชัน ระบุว่า ยอดขายในยุโรปซึ่งเป็นตลาด EV ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลก จะกลับมาเติบโต เนื่องจากการบังคับใช้กฎเกณฑ์การปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) และการที่ราคารถ EV ถูกลง แต่อัตราการเติบโตจะยังคงช้ากว่าในปี 2566
โร โมชัน คาดว่า ยอดขาย EV ในจีนคาดว่าจะเติบโตมากกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 17% ในปี 2568 และจะครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในตลาดรถยนต์ของจีนซึ่งได้แรงหนุนจากการขยายมาตรการเงินอุดหนุน โดยในปี 2567 ยอดขาย EV พุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 40% สู่ระดับ 11 ล้านคัน
ยอดขาย EV ที่ผลิตในจีนจะยังคงดำเนินไปตามแนวโน้มของปี 2567 ในลาตินอเมริกา ซึ่งยอดขายมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 80% และจะยังคงเพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกและตลาดเกิดใหม่
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สำหรับยุโรปนั้น โร โมชัน คาดว่า ยอดขายจะเติบโต 15% จากยอดขาย EV ราว 3 ล้านคันในปีที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ 1.5 หมื่นล้านยูโร ซึ่งไม่ได้รวมการเปลี่ยนแปลงล่าสุดในอุตสาหกรรมหรือกฎระเบียบการปล่อยมลพิษใหม่ ๆ
โร โมชัน คาดการณ์ว่า ในปี 2568 ยอดขาย EV ในสหรัฐฯ จะเติบโต 16% โดยไม่น่ากระทบมากนักจากการเปลี่ยนแปลงนโยบายของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่ แต่คาดว่าจะมีผลกระทบในระยะยาว รวมถึงในกรณีเลวร้ายที่สุดที่ความต้องการแบตเตอรี่รถ EV ร่วงลงถึง 47% ภายในปี 2583
“ในตลาดสหรัฐฯ นั้น ความไม่แน่นอนอย่างมากได้ส่งผลกระทบต่อตลาดในปีที่ผ่านมา และเราคาดว่าจะมีการปรับลดการคาดการณ์ยอดขาย EV” ฮิวส์ เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์
“อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงไปสู่รถยนต์ไฟฟ้าจะยังคงเกิดขึ้นอย่างมาก และเราจะยังคงเห็นการเติบโตในทศวรรษหน้า” ฮิวส์กล่าว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ม.ค. 68)
Tags: EV, ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้า, รถยนต์ไฟฟ้า