ตามที่มีข่าวปรากฏในสื่อ เรื่องการเปิดเผยข้อมูลของ Samsung E&A ต่อตลาดหลักทรัพย์ของประเทศเกาหลีใต้ เกี่ยวกับการชำระเงินเนื่องจากการที่ บมจ.ไทยออยล์ [TOP] ในฐานะเจ้าของโครงการพลังงานสะอาด (Clean FuelProject: CFP) ได้มีการบังคับหลักประกันสำหรับโครงการนั้น
บริษัทฯ ชี้แจงว่า บริษัทฯ ได้บังคับหลักประกันภายใต้สัญญาจ้างเหมาทำของ การออกแบบวิศวกรรม การจัดหา และ
การก่อสร้าง (EPC Contract) ระหว่างบริษัทฯ และ The Consortium of PSS Netherlands B.V. (Offshore Contractor) และ an
unincorporated joint venture of Samsung E&A (Thailand) Co., Ltd., Petrofac South East Asia Pte. Ltd. และ Saipem Singapore Pte. Ltd. (Onshore Contractor) ตามสัญญาฯ และเพื่อประโยชน์ของบริษัทฯ และผู้ถือหุ้น เป็นจำนวนเงินประมาณ 12,339 ล้านบาท หรือเทียบเท่าประมาณ 358 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอยืนยันว่าจะดeเนินการอย่างเต็มความสามารถเพื่อผลักดันโครงการให้เดินหน้าต่อไปให้ดีที่สุด
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า มอง Positive ต่อการที่ TOP แจ้งสามารถบังคับหลักประกันฯ จากผู้รับเหมาฯ หลักทำงานก่อสร้างไม่ได้ตามสัญญาฯ ราว 12,339 ลบ. คาดช่วยลดภาระต้นทุนส่วนเพิ่มโครงการ CFP ได้ ราว 15% ลดภาระทางการเงิน และสะท้อนว่า TOP ไม่จำเป็นที่จะต้องดำเนินการก่อสร้างต่อโดยอาศัยผู้รับเหมาฯหลักรายเดิมลดปัญหายืดเยื้อในการชำระเงินผู้รับเหมาฯช่วง
เราปรับประมาณการขึ้นเพื่อสะท้อนเงินสดที่เพิ่มขึ้นข้างต้น ปรับ TP25F เป็น 33.0 บาท/หุ้น ปรับคำแนะนำขึ้นเป็น Buy มองยังมี upside risk เพิ่มอีกหากบริษัทยึดหลักประกันฯส่วนที่เหลือ และได้ค่าชดเชยจากการก่อสร้างที่ล่าช้า
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (27 ม.ค. 68)
Tags: TOP, พลังงานสะอาด, เกาหลีใต้, ไทยออยล์