ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวก ขานรับจีนออกมาตรการพยุงตลาดหุ้น

ตลาดหุ้นเอเชียปิดเช้าบวกในวันนี้ (23 ม.ค.) ขานรับข่าวจีนออกมาตรการพยุงตลาดหุ้นด้วยการสั่งให้กองทุนรวมและบริษัทประกันเพิ่มการถือครองหุ้นในตลาด ขณะเดียวกันนักลงทุนยังคงจับตามาตรการภาษีศุลกากรของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดภาคเช้าที่ระดับ 39,830.11 จุด เพิ่มขึ้น 183.86 จุด หรือ +0.46% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดภาคเช้าที่ระดับ 19,826 จุด เพิ่มขึ้น 47.23 จุด หรือ +0.24% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนปิดภาคเช้าที่ระดับ 3,257.61 จุด เพิ่มขึ้น 43.98 จุด หรือ +1.37%

ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 0.42% ส่วนดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ปรับตัวลง 0.96% ทางการเกาหลีใต้เปิดเผยว่าเศรษฐกิจในไตรมาส 4/2567 ขยายตัวเพียง 1.2% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งเป็นการขยายตัวที่ช้าที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 2/2566

บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นเอเชียได้รับแรงหนุน หลังจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของจีน (CSRC) ได้สั่งการให้กองทุนรวมและบริษัทประกันของจีนเพิ่มการลงทุนในตลาดหุ้น

อู๋ ชิง ประธาน CSRC แถลงว่า กองทุนรวมจะต้องเพิ่มการถือครองหุ้นในตลาดหุ้นจีนอีกอย่างน้อย 10% ต่อปีในช่วง 3 ปีข้างหน้า ขณะที่บริษัทประกันขนาดใหญ่ของรัฐบาลจะต้องลงทุนในสัดส่วน 30% ของเบี้ยประกันใหม่ตั้งแต่ปี 2568 เป็นต้นไป

“นโยบายดังกล่าวเอื้อประโยชน์ต่อตลาดหุ้นจีน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหุ้นรัฐวิสาหกิจซึ่งให้ผลตอบแทนสูง” เจสัน ชาน นักกลยุทธ์การลงทุนอาวุโสจากแบงก์ ออฟ อีสต์ เอเชีย (Bank of East Asia) กล่าว และเสริมว่า “การกำหนดให้ธุรกิจประกันต้องลงทุนในตลาดหุ้นในสัดส่วน 30% ของเบี้ยประกันภัยใหม่นับเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจมาก เพราะโดยปกติแล้วพอร์ตการลงทุนของบริษัทประกันจะลงทุนในหุ้นเพียง 15%-20% เท่านั้น”

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (23 ม.ค. 68)

Tags: ,
Back to Top