กระทรวงคมนาคมเกาหลีใต้เปิดเผยในวันนี้ (22 ม.ค.) ว่า กระทรวงจะรื้อกำแพงคอนกรีตที่ติดตั้งอยู่ในสนามบินนานาชาติมูอัน หลังเกิดเหตุเครื่องบินของสายการบินเจจูแอร์ (Jeju Air) พุ่งชนจนระเบิด ซึ่งถือเป็นหายนะทางอากาศครั้งร้ายแรงของประเทศ
ขณะที่เจ้าหน้าที่สืบสวนกำลังค้นหาสาเหตุที่ทำให้เที่ยวบิน 7C2216 ของเจจู แอร์ไถลออกนอกรันเวย์และพุ่งชนกำแพงคอนกรีตจนเครื่องระเบิด ซึ่งรวมถึงรายงานเกี่ยวกับการชนกับนก เหล่าผู้เชี่ยวชาญระบุว่า กำแพงคอนกรีตขนาดใหญ่ที่ใช้รองรับเสาอากาศนำทางที่ปลายรันเวย์น่าจะมีส่วนที่ทำให้ภัยพิบัติครั้งนี้ร้ายแรงกว่าที่ควรจะเป็น
ท่ามกลางการปฏิรูปเป็นวงกว้างชุดแรก ๆ ที่ได้รับการประกาศออกมา เจ้าหน้าที่ทางการระบุว่า พวกเขาจะทำฐานใหม่หรือปรับเปลี่ยนเสาอากาศในสนามบิน 7 แห่ง รวมถึงสนามบินนานาชาติมูอันและเจจู ซึ่งเป็นหนึ่งในสนามบินที่พลุกพล่านที่สุดของเกาหลีใต้ โดยเสาอากาศเหล่านี้จะอยู่ต่ำกว่าระดับพื้นดินหรือง่ายต่อการแตกหัก
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากการตรวจสอบโครงสร้างที่ตั้งเสาอากาศซึ่งมีหน้าที่ควบคุมการลงจอดของสนามบินต่าง ๆ ทั่วประเทศ ที่เรียกว่า โลคัลไลเซอร์ (Localizer)
เหตุการณ์เครื่องบินตกเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. คร่าชีวิตผู้คนไป 179 ราย โดยมีเพียงลูกเรือ 2 คนที่นั่งใกล้ท้ายเครื่องบินโบอิ้ง 737-800 เท่านั้นที่รอดชีวิต ภาพจากวิดีโอแสดงให้เห็นว่า เครื่องบินโดยสารได้พุ่งชนกำแพงคอนกรีตและเกิดระเบิดขึ้น หลังจากลงจอดด้วยความเร็วสูงโดยล้อไม่กางและลื่นไถลผ่านปลายรันเวย์ออกไป
ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมได้สั่งขยายเวลาปิดทำการสนามบินมูอันไปจนถึงวันที่ 18 เม.ย.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ม.ค. 68)
Tags: jeju air, สนามบิน, เกาหลีใต้, เจจูแอร์