โจนาธาน ฮีธ รองผู้ว่าการธนาคารกลางเม็กซิโก (Banxico) เปิดเผยกับหนังสือพิมพ์เอ็กซ์เซลซิเออร์ (Excelsior) ในบทความที่เผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (20 ม.ค.) ว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline Inflation) และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core Inflation) มีแนวโน้มที่จะต่ำกว่า 4% ในเดือนม.ค. และระบุเสริมว่า ธนาคารกลางไม่จำเป็นต้องใช้ท่าทีที่เข้มงวดเกินไป
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า การคาดการณ์ของผู้บริหารธนาคารกลางนี้เกิดขึ้นในขณะที่บางคนกังวลว่าอาจมีแรงกดดันต่อราคาสินค้าเพิ่มขึ้น เนื่องจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ เคยขู่จะเรียกภาษีนำเข้าสินค้าของเม็กซิโก นอกเหนือจากการเนรเทศชาวเม็กซิโกออกนอกประเทศเป็นจำนวนมาก ซึ่งล้วนแล้วแต่จะกระตุ้นให้เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ฮีธซึ่งเป็น 1 ใน 4 สมาชิกของคณะกรรมการกำหนดนโยบายของธนาคารกลางยังกล่าวกับเอ็กซ์เซลซิเออร์อีกว่า เขาจะลดอัตราเงินเฟ้อของเม็กซิโกลงสู่เป้าหมายของธนาคารกลางที่ระดับ 3%
ข้อมูลจากทางการเปิดเผยว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของเม็กซิโกลดลงมาอยู่ที่ 4.21% ในเดือนธ.ค. ขณะที่อัตราพื้นฐานเพิ่มขึ้นแตะ 3.65%
ในเวลาดังกล่าว ฮีธได้ยกย่องการเปลี่ยนแปลงของราคาว่าเป็น “ข่าวดี” เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนต.ค. 2566
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (21 ม.ค. 68)
Tags: ธนาคารกลางเม็กซิโก, เงินเฟ้อ, เม็กซิโก