ริโอทินโต กรุ๊ป (Rio Tinto Group) และบริษัทเกลนคอร์ (Glencore) กำลังหารือกันเกี่ยวกับการควบรวมกิจการ โดยหากการเจรจาประสบความสำเร็จก็จะเป็นการทำข้อตกลงควบรวมธุรกิจเหมืองแร่ครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์ และจะนำไปสู่การจัดตั้งบริษัทเหมืองขนาดใหญ่แข่งกับเจ้าตลาดอย่างบีเอชพี กรุ๊ป (BHP Group)
แหล่งข่าวเปิดเผยกับสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ริโอทินโตและเกลนคอร์ได้มีการเจรจาในขั้นต้นเกี่ยวกับข้อตกลงดังกล่าวเมื่อไม่นานมานี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่ตัวแทนของทั้งริโอทินโตและเกลนคอร์ได้ปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวดังกล่าว
ราคาหุ้นริโอทินโตร่วงลง 1.8% ในการซื้อขายที่ตลาดหุ้นออสเตรเลียในวันนี้ (17 ม.ค.) หลังจากมีรายงานดังกล่าว ก่อนที่ราคาหุ้นจะปิดตลาดปรับตัวลง 0.7%
ริโอทินโตเป็นบริษัทเหมืองแร่ที่ใหญ่เป็นอันดับสองของโลก โดยมีมูลค่าตลาดประมาณ 1.03 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เกลนคอร์มีมูลค่าตลาด 5.5 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนบีเอชพีมีมูลค่าตลาด 1.26 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งเกลนคอร์และริโอทินโตต่างก็เป็นเจ้าของเหมืองทองแดงที่ดีที่สุดในโลก อย่างไรก็ตาม ริโอทินโตยังคงพึ่งพาแร่เหล็กในการสร้างกำไรเช่นเดียวกับบีเอชพี ซึ่งทำให้บริษัทเหล่านี้เผชิญกับความท้าทายในช่วงเวลาที่การเติบโตด้านการก่อสร้างที่ยาวนานหลายทศวรรษของจีนกำลังจะสิ้นสุดลง และตลาดแร่เหล็กก็เผชิญกับความอ่อนแอเป็นเวลานาน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ม.ค. 68)
Tags: Glencore, Rio Tinto Group, ธุรกิจเหมืองแร่, บีเอชพี กรุ๊ป, ริโอทินโต กรุ๊ป, เกลนคอร์