น้ำมัน WTI ปิดพุ่ง $2.54 รับสต็อกน้ำมันดิบลด-สหรัฐฯคว่ำบาตรรัสเซีย

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% ในวันพุธ (15 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ ที่ลดลงมากกว่าคาด รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่าอุปทานน้ำมันในตลาดโลกอาจได้รับผลกระทบจากการที่สหรัฐฯ คว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันรัสเซีย

  • ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 2.54 ดอลลาร์ หรือ 3.28% ปิดที่ 80.04 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.ค. 2567
  • ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 2.11 ดอลาร์ หรือ 2.64% ปิดที่ 82.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2567

สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐฯ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบลดลง 2 ล้านบาร์เรล สู่ระดับ 412.7 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 10 ม.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2565 และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์ในโพลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์คาดการณ์ว่าจะลดลงเพียง 992,000 บาร์เรล

นอกจากนี้ การที่สหรัฐฯ ออกมาตรการคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซียยังเป็นปัจจัยหนุนราคาน้ำมัน โดย EIA ออกรายงานล่าสุดระบุว่าการที่สหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียจะส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุปทานน้ำมันและการขนส่งน้ำมันในตลาด

ทั้งนี้ กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรอุตสาหกรรมน้ำมันของรัสเซียเมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา เพื่อลงโทษรัสเซียที่ใช้ปฏิบัติการทางทหารโจมตียูเครน โดยมาตรการคว่ำบาตรล่าสุดพุ่งเป้าไปยังบริษัทน้ำมันของรัสเซีย ได้แก่ก๊าซพรอม เนฟต์ (Gazprom Neft) และซูร์กุตเนฟเตกัส (Surgutneftegas) รวมถึงเรือบรรทุกน้ำมัน 183 ลำที่เคยขนส่งน้ำมันรัสเซีย เพื่อสกัดกั้นรายได้ที่รัสเซียนำไปใช้ทำสงครามกับยูเครน

อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันลดช่วงบวกในระหว่างวัน หลังจากมีรายงานว่าอิสราเอลและกลุ่มฮามาสได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงในฉนวนกาซาแล้ว โดยทั้งอิสราเอลและฮามาสต่างก็ตกลงที่จะปล่อยตัวประกัน ขณะที่อิสราเอลจะอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์กลับสู่ถิ่นฐานทางเหนือของฉนวนกาซาและอนุญาตให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซา

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ม.ค. 68)

Tags: , ,
Back to Top