ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกมากกว่า 1% ในวันพุธ (15 ม.ค.) หลังการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อที่เป็นไปตามคาดของสหรัฐฯ ได้เพิ่มโอกาสที่ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งที่ 2 ในปีนี้
- ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 515.02 จุด เพิ่มขึ้น 6.74 จุด หรือ +1.33%
- ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,474.59 จุด เพิ่มขึ้น 50.92 จุด หรือ +0.69%,
- ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 20,574.68 จุด เพิ่มขึ้น 303.35 จุด หรือ +1.50% และ
- ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,301.13 จุด เพิ่มขึ้น 99.59 จุด หรือ +1.21%
ดัชนี STOXX 600 พุ่งขึ้น หลังลดลงติดต่อกัน 3 วัน โดยปรับตัวขึ้นระหว่างวันเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนก.ย. 2567
หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย พุ่งขึ้น 3.3% และหุ้นกลุ่มการเงินพุ่งขึ้น 2%
ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2.9% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนธ.ค.ซึ่งเป็นไปตามคาด และดัชนี CPI พื้นฐานเพิ่มขึ้น 3.2% แต่ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์
ขณะนี้บรรดาเทรดเดอร์คาดว่า เฟดอาจปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.40% ในปีนี้ จากระดับราว .30% ก่อนการเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ
ส่วนเงินเฟ้อของอังกฤษชะลอลงเกินคาดสู่ 2.5% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนธ.ค. และเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงอย่างมาก
ตลาดได้แรงหนุนจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยุโรปที่ลดลงด้วย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรยูโรโซนอายุ 10 ปีลดลงสู่ระดับ 2.53% หลังปรับตัวขึ้น 10 วันติดต่อกัน
หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคที่เป็นตัวแทนการลงทุนของพันธบัตรนั้น เพิ่มขึ้น 1.8%
การผลิตภาคอุตสาหกรรมของยูโรโซนเพิ่มขึ้นตามคาดในเดือนพ.ย. ส่วนผลสำรวจบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางยุโรป (ECB) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยต่อไปจนถึงอย่างน้อยในเดือนก.ค. เพื่อปกป้องเศรษฐกิจที่อ่อนแอของยูโรโซน
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ม.ค. 68)
Tags: ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นยุโรป