ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 703.27 จุด ขานรับเงินเฟ้อต่ำกว่าคาด-ผลประกอบการแบงก์ใหญ่

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (15 ม.ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) ที่ต่ำกว่าคาด นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของธนาคารรายใหญ่ในสหรัฐฯ

  • ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 43,221.55 จุด เพิ่มขึ้น 703.27 จุด หรือ +1.65%,
  • ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,949.91 จุด เพิ่มขึ้น 107.00 จุด หรือ +1.83% และ
  • ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,511.23 จุด เพิ่มขึ้น 466.84 จุด หรือ +2.45%

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ดัชนี CPI พื้นฐาน ซึ่งเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.3% หลังจากที่เพิ่มขึ้น 3.3% ในเดือนพ.ย.

ส่วนดัชนี CPI ทั่วไปซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.9% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายปี สอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.7% ในเดือนพ.ย.

ดัชนีดาวโจนส์, S&P500 และ Nasdaq พุ่งขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์ในวันเดียวที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบกว่า 2 เดือน หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนี CPI พื้นฐานที่ต่ำกว่าคาด ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เริ่มชะลอตัวลง และอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)

การชะลอตัวลงของเงินเฟ้อยังส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ร่วงหลุดจากระดับ 4.7% และยังช่วยหนุนดัชนี Russell 2000 ซึ่งเป็นดัชนีหุ้นกลุ่มบริษัทที่มีมาร์เก็ตแคปต่ำ พุ่งขึ้น 1.99%

หุ้น 10 ใน 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนบวก นำโดยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยและกลุ่มบริการด้านการสื่อสารพุ่งขึ้น 3.02% และ 2.66% ตามลำดับ ส่วนหุ้นกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคปรับตัวลง 0.1%

ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งเกินคาดของภาคธนาคาร โดยเจพีมอร์แกน เชส (JPMorgan Chase) ซึ่งเป็นธนาคารขนาดใหญ่ที่สุดของสหรัฐฯ เมื่อพิจารณาจากมูลค่าสินทรัพย์เปิดเผยว่า กำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 4.81 ดอลลาร์/หุ้น สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.11 ดอลลาร์ ส่งผลให้ราคาหุ้นเจพีมอร์แกนปิดตลาดพุ่งขึ้น 1.97%

หุ้นโกลด์แมน แซคส์ (Goldman Sachs) ทะยานขึ้น 6.02% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 11.95 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 8.22 ดอลลาร์

หุ้นซิตี้กรุ๊ป (Citigroup) พุ่งขึ้น 6.49% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 1.34 ดอลลาร์ สูงกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 1.22 ดอลลาร์ ส่วนหุ้นเวลส์ ฟาร์โก (Wells Fargo) พุ่งขึ้น 6.69% หลังจากธนาคารเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 4/2567 อยู่ที่ 1.42 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.35 ดอลลาร์

นอกจากนี้ บรรยากาศการซื้อขายในตลาดหุ้นนิวยอร์กยังได้ปัจจัยบวกจากรายงานข่าวที่ว่า อิสราเอลและกลุ่มฮามาสได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิงแล้ว โดยทั้งสองฝ่ายได้ตกลงที่จะปล่อยตัวประกัน ขณะที่อิสราเอลจะอนุญาตให้ชาวปาเลสไตน์กลับสู่ถิ่นฐานทางเหนือของฉนวนกาซาและอนุญาตให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าสู่ฉนวนกาซา นอกจากนี้ยังมีการกำหนดแผนบูรณะฟื้นฟูฉนวนกาซาเป็นเวลา 3-5 ปีภายใต้การกำกับดูแลของนานาชาติ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (16 ม.ค. 68)

Tags: , , ,
Back to Top