นายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป [TISCO] กล่าวว่า กลุ่มทิสโก้ตั้งเป้าการเติบโตของสินเชื่อในปี 68 เติบโต 5% ซึ่งขยายตัวขึ้นมาจากปีก่อนที่หดตัวไปเล็กน้อยราว 1.1% โดยกลุ่มทิสโก้จะหันมาเดินหน้ารุกขยายสินเชื่อในกลุ่มสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มากขึ้น โดยเฉพาะรถยนต์ใหม่ในแบรนด์เจ้าตลาดที่มีปริมาณการขายสูง ทำให้มีโอกาสปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น แม้อาจจะมีความท้าทายอยู่บ้างจากภาพรวมแนวโน้มยอดขายรถยนต์ชะลอตัว และมีความเสี่ยงด้านหนี้ครัวเรือน แต่บริษัทมองว่ายังเป็นโอกาสจะเข้ามาเสริมการขับเคลื่อนสินเชื่อในปีนี้ให้เติบโตได้ หลังจากก่อนหน้านี้สัดส่วนพอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ของทิสโก้ปรับลดลงมาที่ 34% จากก่อนหน้าอยู่ที่ 57%
ขณะเดียวกัน TISCO ยังคงรุกตลาดในกลุ่มสินเชื่อที่มีตอบแทนสูง (High Yield) โดยเฉพาะแบรนด์ “สมหวัง เงินสั่งได้” ซึ่งในปีนี้จะมีการเพิ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาต่อยอดจากสินเชื่อเช่าซื้อรถจักรยานยนต์ เช่น สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สินเชื่อบ้านแลกเงิน (Home equity loan) ซึ่งมองว่ามีแนวทางการแข่งขันกับกลุ่มนอนแบงก์ได้ โดยเฉพาะการแข่งขันด้านดอกเบี้ยที่ต่ำกว่านอนแบงก์ เนื่องจากต้นทุนทางการเงินต่ำกว่า เป็นโอกาสรุกขยายตลาดในส่วนนี้เพิ่มเติมทดแทนการหยุดขยายสาขาที่มีแล้วกว่า 808 สาขาทั่วประเทศ
อย่างไรก็ตาม กลยุทธ์ที่รุกสินเชื่อมากขึ้น และยังรุกสินเชื่อ High Yield ทำให้แนวโน้มของสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) คงจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนที่ระดับ 2.4% และอาจจะทำให้การตั้งสำรองฯของธนาคารเพิ่มขึ้นมาบ้างจากปีก่อนที่ 0.60% ของสินเชื่อรวม แต่ก็ได้ฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น รวมถึงมีรายได้จากดอกเบี้ยที่เข้ามาเสริม ทำให้รายได้ดอกเบี้ยในปี 68 จะสามารถรักษาระดับใกล้เคียงกับปีก่อน ส่วนหนึ่งจากมาร์จิ้นที่ไม่ได้ลดลง และ Cost of fund ที่ปรับตัวลดลง
ส่วนรายได้จากค่าธรรมเนียมคาดว่าจะยังเห็นการเติบโตได้ในปี 68 ซึ่งมาจากธุรกิจตลาดทุนที่ยังเป็นปัจจัยหนุน โดยเฉพาะธุรกิจกองทุนรวม และโบรกเกอร์ แม้ว่าต้นปีที่ผ่านมาตลาดหุ้นจะมีความผันผวน แต่มองว่าหากทิศทางของเศรษฐกิจดีขึ้น ซึ่งคาดว่าเศรษฐกิจไทยเติบโตในปี 68 ที่ 3% และหากปัจจัยต่างประเทศไม่ได้ผันผวนมากก็จะช่วยหนุนตลาดหุ้นได้ไนช่วง 11 เดือนที่เหลือของปีนี้ และธุรกิจนายหน้าซื้อขายประกันของธนาคารยังคงมีทิศทางที่ดี โดยเฉพาะการนำเสนอขายประกันผ่านการขอสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ยังมีการเติบโต
สำหรับมาตรการแก้หนี้ “คุณสู้ เราช่วย” มองว่าจะมีบทบาทสำคัญในการบรรเทาภาระหนี้ของกลุ่มเปราะบาง และช่วยหนุนต่อแรงกดดันของ NPL ที่จะเกิดขึ้นได้ และทำให้ลูกหนี้ของธนาคารทิสโก้สามารถกลับมาตั้งตัวได้ โดยที่ธนาคารมีลูกหนี้ที่ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตการแล้วราว 8,000 ราย
ทั้งนี้ บริษัทยังคงเดินหน้าในการรักษาความสามารถในการทำกำไรที่ดีอย่างต่อเนื่อง เพื่อส่งผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นของ TISCO อย่างสม่ำเสมอ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ม.ค. 68)
Tags: TISCO, ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป, ศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์, หุ้นไทย