นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการพัฒนาและบริหารจัดการผลไม้ ครั้งที่ 1/2568 ว่า ตามที่มีข่าวจีนระงับการนำเข้าทุเรียนของไทย ภายหลังตรวจพบการใช้สาร Basic Yellow 2 ในทุเรียนนั้น กระทรวงเกษตรฯ ไม่นิ่งนอนใจในเรื่องดังกล่าว และเป็นนโยบายที่ได้เน้นย้ำความสำคัญในการควบคุมมาตรฐานสินค้าผักและผลไม้ จึงได้ประชุมพิจารณาวาระเร่งด่วนเพื่อหาแนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้าผักผลไม้ไทย
โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบเพิ่มมาตรการตรวจเข้มข้น โดยตรวจทุกตู้ที่มีการส่งออก 100% รวมไปถึงการตรวจสารแคดเมียม หนอนทุเรียน และสารซัลเฟอร์ไดออกไซด์ในลำไยด้วย หากตรวจพบจะดำเนินการตามบทลงโทษ ตามประกาศกรมวิชาการเกษตร
“กระทรวงเกษตรฯ ได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่ที่จะเข้าไปตรวจตามล้งต่าง ๆ แล้ว โดยพื้นที่ภาคใต้ที่จ.ชุมพร และจ.นครศรีธรรมราช เป็นพื้นที่ที่จะต้องดำเนินการก่อน เนื่องจากผลผลผลิตทุเรียนกำลังจะทยอยออกสู่ตลาด ขณะเดียวกัน ในระหว่างการเตรียมความพร้อม จึงอยากให้ความมั่นใจกับพี่น้องเกษตรกรว่า กระทรวงเกษตรฯ พร้อมวางมาตรการใหม่ภายใน 10 วัน และจะดำเนินการอย่างจริงจัง เพื่อยกระดับคุณภาพและความเชื่อมั่นในทุเรียนไทย อย่างไรก็ตาม ได้ประสานกับกรมการค้าภายใน ช่วยดูแลเรื่องราคาทุเรียน ขอความร่วมมือผู้รับซื้อทุเรียน ไม่ให้มีการกดราคา” นางนฤมล กล่าว
นางนฤมล กล่าวว่า วันที่ 5-7 ก.พ.นี้ จะเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนร่วมกับนายกรัฐมนตรี อย่างเป็นทางการ และจะนำเรื่องดังกล่าวหารือกับสำนักงานศุลกากรแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ถึงการดำเนินมาตรการที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้นในสินค้าผักผลไม้ของไทย เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและส่งออก สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร เนื่องจากสินค้าผักผลไม้ของไทยที่ส่งออกไปจีนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องทุกปี โดยปี 67 (ม.ค.-พ.ย.) ไทยส่งออกผลไม้สด 1.817 ล้านตัน มูลค่า 177,131 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตร ได้ออกประกาศกรมวิชาการเกษตร เรื่อง มาตรการควบคุมการปนเปื้อนสารห้ามใช้ในทุเรียนผลสดส่งออกไปสาธารณรัฐประชาชนจีน พ.ศ. 2568 โดยมีผลบังคับใช้วันที่ 10 ม.ค. 68 เป็นต้นไป ดังนี้
1. กรณีที่มีการใช้สารเคมีในกระบวนการผลิต ต้องใช้ทั้งชนิด และปริมาณที่ถูกต้อง ตามประกาศกระทรวงสาธารณสุขที่เกี่ยวข้อง หรือตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย พ.ศ. 2535 หรือข้อกำหนดของประเทศคู่ค้า
2. กรณีตรวจพบโรงคัดบรรจุใช้สารห้ามใช้ หรือมีสารห้ามใช้ไว้ในครอบครอง จะถูกระงับการส่งออก และนำไปสู่การยกเลิกหนังสือสำคัญแสดงการขึ้นทะเบียนโรงงานผลิตสินค้าพืชก็ได้
3. กรณีเจ้าหน้าที่สงสัยว่าทุเรียนมีการใช้สารห้ามใช้ ให้มีอำนาจสั่งให้โรงคัดบรรจุนำผลทุเรียนนั้น ไปตรวจวิเคราะห์กับห้องปฏิบัติการ เพื่อใช้ประกอบการพิจารณาออกใบรับรองสุขอนามัยพืช
สำหรับสถิติการส่งออกผลไม้ไปประเทศจีน ตั้งแต่ปี 65-67 พบว่า ปริมาณการส่งออกทุเรียนลดลง ขณะที่ปริมาณการส่งออกลำไยสูงขึ้นจากปีที่ผ่านมา ดังนี้ ปี 67 ไทยส่งออกผลไม้ไปจีน รวมทั้งสิ้น 101,884 ตู้/ชิปเม้นท์ ปริมาณรวม 1,824,815 ตัน มูลค่ารวม 134,954 ล้านบาท โดยมีปริมาณการส่งออกลดลงจากปี 65 และปี 66 โดยเป็นการส่งออกทุเรียน 52,960 ตู้/ชิปเม้นท์ ปริมาณ 824,777 ตัน มูลค่า 88,806 ล้านบาท ขณะที่การส่งออกลำไย 15,102 ตู้/ชิปเม้นท์ ปริมาณ 375,327 ตัน มูลค่า 16,018 ล้านบาท
ทั้งนี้ กรมวิชาการเกษตร รายงานด้วยว่า ได้เตรียมยื่นขอเปิดตลาดส่งออกลำไยทุกประเภท จากไทยไปฟิลิปปินส์ เพื่อขยายตลาดเพิ่มขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (14 ม.ค. 68)
Tags: Set Zero, กระทรวงเกษตรและสหกรณ์, การเกษตร, จีน, ทุเรียนไทย, นฤมล ภิญโญสินวัฒน์