จีนนำเข้าน้ำมันดิบลดลงครั้งแรกในรอบ 2 ทศวรรษ ในปี 2567

สำนักงานศุลกากรจีนเปิดเผยในวันนี้ (13 ม.ค.) ว่า ยอดนำเข้าน้ำมันดิบของจีนในปี 2567 หดตัวลง 1.9% นับเป็นครั้งแรกในรอบสองทศวรรษนอกเหนือจากช่วงการระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เชื่องช้าและความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงที่แตะระดับสูงสุดไปแล้วตั้งแต่ปี 2566 ส่งผลให้การซื้อน้ำมันดิบชะลอตัว

ข้อมูลระบุว่า ยอดนำเข้าในปี 2567 อยู่ที่ 553.4 ล้านเมตริกตัน หรือราว 11.04 ล้านบาร์เรลต่อวัน เทียบกับสถิติสูงสุดที่ 11.28 ล้านบาร์เรลต่อวันในปี 2566 ส่วนตัวเลขนำเข้าเดือนธ.ค.อยู่ที่ 47.84 ล้านตัน หรือ 11.27 ล้านบาร์เรลต่อวัน ลดลงจาก 11.81 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนพ.ย. และ 11.39 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือนธ.ค. 2566

“จีนในปี 2567 สร้างความผิดหวังให้ตลาดที่คาดว่าการเติบโตจะทรงตัวหรือแข็งแกร่งกว่าปี 2566 แต่แรงกดดันจากภาวะเงินฝืดและการเปลี่ยนผ่านสู่ยานยนต์ไฟฟ้าทำให้การเติบโตชะลอตัว” เอ็มริล จามิล นักวิเคราะห์อาวุโสจาก LSEG กล่าวก่อนการเปิดเผยข้อมูล

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงในภาคขนส่งของจีนแทบไม่ขยายตัวในปี 2567 เนื่องจากการเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าอย่างรวดเร็วทำให้การใช้น้ำมันเบนซินลดลง ขณะที่วิกฤตภาคอสังหาริมทรัพย์และการส่งออกสินค้าที่ซบเซาก็กดดันความต้องการใช้น้ำมันดีเซล

นักวิเคราะห์ระบุว่า ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงของจีน ยกเว้นที่ใช้เป็นวัตถุดิบปิโตรเคมี ได้แตะจุดสูงสุดไปแล้วในปี 2566 แม้ความต้องการใช้น้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับการบินจะเพิ่มขึ้น แต่ไม่เพียงพอจะชดเชยการลดลงของน้ำมันเบนซินและดีเซล

ความต้องการใช้เชื้อเพลิงที่ซบเซาและกำไรจากการกลั่นที่ลดน้อยลง ทำให้โรงกลั่นทั้งของรัฐและเอกชนต้องปรับลดกำลังการผลิต ส่งผลให้ความต้องการน้ำมันดิบลดลงตามไปด้วย

บริษัทที่ปรึกษาด้านพลังงานออยเคม (Oilchem) ประเมินว่า โรงกลั่นอิสระในมณฑลชานตง ศูนย์กลางการกลั่นน้ำมันทางตะวันออกของจีน มีอัตราการใช้กำลังการผลิตน้ำมันดิบเพียง 53.66% ในปี 2567 ลดลง 8.3% จากปี 2566 อีกทั้งการปิดโรงกลั่นต้าเหลียนของปิโตรไชน่า (PetroChina) เพื่อย้ายที่ตั้ง และการปิดโรงกลั่นของซิโนเคม (Sinochem Group) ในมณฑลชานตงแบบไม่มีกำหนด ก็เป็นปัจจัยที่ทำให้การนำเข้าน้ำมันดิบลดลง

ด้านซิโนเปค (Sinopec) ยักษ์ใหญ่พลังงานของรัฐ รายงานเมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมาว่า กำไรขั้นต้นจากการกลั่นน้ำมันในช่วงสามไตรมาสแรกของปี 2567 อยู่ที่ 5.65 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งต่ำเป็นอันดับสองนับตั้งแต่ปี 2562

ในทางกลับกัน ข้อมูลวันนี้แสดงให้เห็นว่า การนำเข้าก๊าซธรรมชาติของจีน ทั้งในรูปแบบก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) และก๊าซจากท่อ เพิ่มขึ้นเกือบ 10% แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 131.69 ล้านตันในปี 2567 โดยยอดนำเข้าในเดือนธ.ค.อยู่ที่ 11.56 ล้านตัน เพิ่มขึ้นจาก 10.8 ล้านตันในเดือนพ.ย. แต่ลดลงจาก 12.65 ล้านตันในเดือนธ.ค. 2566

ด้านการส่งออกผลิตภัณฑ์น้ำมันสำเร็จรูป ซึ่งรวมถึงน้ำมันดีเซล น้ำมันอากาศยาน น้ำมันเบนซิน และน้ำมันเชื้อเพลิงเดินเรือ อยู่ที่ 58.14 ล้านตัน ลดลง 7.2% จากปี 2566 โดยยอดส่งออกเดือนธ.ค.อยู่ที่ 3.73 ล้านตัน นับเป็นระดับต่ำสุดในปี 2567 เนื่องจากบริษัทต่าง ๆ มีโควตาการส่งออกไม่เพียงพอ

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ม.ค. 68)

Tags: ,
Back to Top