นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค (JPMorgan Chase & Co) เปิดเผยในวันพฤหัสบดี (9 ม.ค.) ว่า ค่าใช้จ่ายที่บริษัทประกันภัยต้องรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดจากไฟป่าในนครลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา มีแนวโน้มว่าจะสูงเกิน 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งตัวเลขดังกล่าวพุ่งขึ้นสองเท่าจากการประมาณการก่อนหน้านี้เพียงวันเดียว
เมื่อวันพุธ (8 ม.ค.) นักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนประเมินว่ามูลค่าความเสียหายที่บริษัทประกันจะต้องแบกรับจะสูงเกือบ 1 หมื่นล้านดอลลาร์
ทีมนักวิเคราะห์ของเจพีมอร์แกนซึ่งนำโดยจิมมี บูลลาร์ ได้ออกรายงานเตือนในวันพฤหัสบดีว่า มูลค่าความเสียหายของทรัพย์สินที่มีการประกันภัยรวมกันอาจเพิ่มขึ้นอีกหากไม่สามารถควบคุมไฟป่าได้และความเสียหายยังคงลุกลามเป็นวงกว้าง
การประเมินล่าสุดทำให้มูลค่าความเสียหายจากไฟป่าครั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะสูงกว่าเหตุการณ์ไฟป่าในบัตต์เคาน์ตีเมื่อปี 2561 โดยเหตุการณ์ครั้งนั้นมีมูลค่าความเสียหายด้านการประกันราว 1 หมื่นล้านดอลลาร์ และถือเป็นเหตุการณ์ไฟป่าที่สร้างความเสียหายต่ออุตสาหกรรมประกันภัยมากที่สุดในประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนียนับจนถึงขณะนี้
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า เหตุการณ์ไฟป่าครั้งล่าสุดนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย และสร้างความเสียหายครอบคลุมพื้นที่กว่า 29,000 เอเคอร์ในลอสแอนเจลิส
นอกจากนี้ แอคคิวเวเธอร์ (AccuWeather) ประมาณการเบื้องต้นว่า ความเสียหายทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นจากไฟป่าในครั้งนี้มีมูลค่าราว 5.2-5.7 หมื่นล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ เหตุการณ์ไฟป่าถือเป็นการเพิ่มแรงกดดันให้กับตลาดประกันภัยบ้านในรัฐแคลิฟอร์เนียซึ่งเผชิญกับวิกฤตการณ์อยู่ก่อนแล้วในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยบริษัทประกันภัยหลายรายได้พากันถอนตัวออกจากรัฐแคลิฟอร์เนีย เนื่องจากต้นทุนที่เพิ่มขึ้นจากภัยพิบัติทางธรรมชาติและกฎข้อบังคับด้านการกำหนดราคากรมธรรม์ที่มีความเข้มงวด
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (10 ม.ค. 68)
Tags: ลอสแอนเจลิส, เจพีมอร์แกน, ไฟป่า