น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมบูรณาการการแก้ปัญหาพื้นที่จังหวัดภูเก็ต เพื่อรองรับการเติบโตของการท่องเที่ยว โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาและหน่วยงานในพื้นที่เข้าร่วมประชุม โดยระบุว่า ปี 2567 ที่ผ่านมา จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเริ่มกลับมาใกล้เคียงกับช่วงก่อนโควิด-19 ระบาดแล้ว ซึ่งถือว่าเป็นทิศทางที่ดี โดยนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาไทยเกือบ 1 ใน 4 เดินทางมาท่องเที่ยวที่ภูเก็ตด้วย ดังนั้น จึงอยากให้โฟกัสในเรื่องการเป็นพรีเมียม เพื่อให้มีรายได้ต่อหัวจากนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น
ส่วนเรื่อง Taxi Boat หากเอกชนเข้ามาดำเนินการ รัฐบาลจะให้การสนับสนุน ทั้งใบอนุญาต และจัดหาท่าเรือที่ปลอดภัย ซึ่งจะทำให้สามารถเกิดธุรกิจขนาดใหญ่ในภูเก็ตได้อีกหนึ่งธุรกิจ
น.ส.แพทองธาร กล่าวถึงการเดินทางและการจราจรในพื้นที่ภูเก็ตด้วยว่า ถนนหลักสาย 402 เมื่อมีปริมาณคนใช้มากขึ้น จึงต้องพิจารณาว่าจะมีทางแก้ไขปัญหาอย่างไรได้บ้าง ซึ่งได้สั่งการว่าโครงการที่ได้รับงบประมาณไปแล้วและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ก็ขอให้เร่งดำเนินการ เพื่อช่วยลดความเดือดร้อนด้านการจราจรให้กับประชาชน
นอกจากนี้ คือ Mass Transport ที่เชื่อมต่อการเดินทางของนักท่องเที่ยวจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมือง จึงต้องมีความจำเป็นที่จะทำความเข้าใจกับประชาชนว่า ไม่ได้แปลว่า แย่งหรือทำลายบางอาชีพลง แต่เป็นการปรับตัวให้เกิดอาชีพใหม่ ๆ
“การจัดการคมนาคมในระยะสั้น ถือเป็นเรื่องสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะกว่าจะก่อสร้างแต่ละจุดเสร็จ ต้องใช้เวลาหลายปี พร้อมกับส่งเสริมรถขนส่งมวลชนไฟฟ้า หรือ บัสอีวี ที่จะเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น แต่ต้องดูว่าการเพิ่มจำนวนนั้น ใช่คำตอบที่แท้จริงหรือไม่ เพราะหากเพิ่มไปแล้ว ไม่ได้แปลว่าคนที่มีรถ จะเลิกใช้รถของตัวเอง จึงอยากพิจารณาเรื่องนี้ให้ดีเพราะไม่เช่นนั้น จะเป็นการใช้งบโดยไม่เห็นผลต่างนายกรัฐมนตรี กล่าว
สำหรับด้านการท่องเที่ยวนั้น นายกรัฐมนตรี ระบุว่า นโยบาย Soft Power จะเน้นย้ำในเรื่องการจัดให้ประเทศไทย มีเทศกาลด้านการท่องเที่ยวขนาดใหญ่ในพื้นที่ภูเก็ต นำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วย ตลอดจนการพัฒนาบุคลากร ซึ่งหากต้องการให้ภาครัฐช่วยสนับสนุนในส่วนใด ก็สามารถพูดคุยกันได้ เพราะรายได้ของการท่องเที่ยว ถือเป็นรายได้หลักที่รัฐบาลต้องดูแลและให้ความสำคัญ
ขณะที่การปราบผู้มีอิทธิพล ถือว่าเป็นเรื่องที่สำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งผิดกฎหมายต่าง ๆ จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจโฟกัสเรื่องนี้จริงจัง เน้นการบังคับใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาดกับผู้มีอิทธิพล ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนได้รับความปลอดภัย และทำให้ประเทศมีระเบียบมากขึ้น
“อยากเน้นย้ำเรื่องของกฎหมาย ให้ใช้กฎหมายอย่างเด็ดขาด เพราะกฎหมายเรามีอยู่แล้ว เราไม่อยากให้มีการละเว้นหรือยกเว้นในเรื่องของกฎหมาย คือหากใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ประชาชนจะได้รู้สึกปลอดภัย และประเทศชาติก็มีระเบียบมากขึ้น นายกรัฐมนตรี กล่าว
ด้านนายโสภณ สุวรรณรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต รายงานปัญหาในพื้นที่ว่า มีความกังวลเรื่องการจราจร ซึ่งต้องการผลักดันงบประมาณในหลายส่วนเพื่อมาเติมเต็มการบริการด้านการจราจรขณะเดียวกัน ยังขอให้นายกรัฐมนตรี มอบหมายกระทรวงคมนาคม ศึกษารถไฟรางเบา เนื่องจากมีการเรียกร้องมากกว่า 10 ปี แต่ยังไม่ผ่านการศึกษา ซึ่งหากสามารถทำสำเร็จ จะสามารถเชื่อมต่อสนามบินไปยังพื้นที่เขตเมือง เพื่อแบ่งเบาภาระการเดินทางยกระดับภูเก็ตเป็น Smart City อย่างเต็มรูปแบบ
ส่วนการแก้ไขปัญหาน้ำ รวมไปถึงน้ำเน่าเสีย การจัดการขยะและการจัดการภัยพิบัติ กรมโยธาธิการและผังเมือง ร่วมกับกรมป่าไม้ จัดทำระบบตาข่าย ลดแรงต้านของน้ำเพื่อลดการชะล้างหน้าดิน และติดตั้งเครื่องเตือนภัยดินโคลนถล่มส่วนความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวจังหวัดภูเก็ตได้มีการซักซ้อมแผนการปฏิบัติ เพื่อที่จะดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวทั้งทางน้ำและทางบก
สำหรับการสร้าง Medical Wellness ถือเป็นหนึ่งใน 10 เสาหลักของจังหวัด ซึ่งในพื้นที่กลุ่มจังหวัดอันดามัน ยังไม่มีเครื่องฉายแสงมะเร็ง กระทรวงสาธารณสุข จึงจัดสรรงบประมาณ 120 ล้านบาท ดำเนินการก่อสร้างอาคารและจัดซื้อเครื่องฉายแสง แต่ยังไม่เพียงพอในการก่อสร้าง แม้ว่าจะมีการระดมทุนแล้วก็ตาม จึงอยากของบประมาณจากส่วนกลางมาเติมเต็ม เพื่อให้เกิดความสมบูรณ์ ซึ่งทั้งหมดจะถูกจัดซื้อจัดจ้างผ่านระบบราชการของโรงพยาบาลวชิระภูเก็ต
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ม.ค. 68)
Tags: ท่องเที่ยว, นักท่องเที่ยว, ภูเก็ต, แพทองธาร ชินวัตร, โสภณ สุวรรณรัตน์