มาร์ติน ลุนด์สเต็ดต์ ซีอีโอของวอลโว่ กรุ๊ป (Volvo Group) บริษัทรถยนต์สัญชาติสวีเดน เปิดเผยกับสำนักข่าวรอยเตอร์เมื่อวันพุธ (8 ม.ค.) ว่า วอลโว่กำลังเดินหน้าแผนการสร้างโรงงานผลิตรถบรรทุกหนักมูลค่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐในเมืองมอนเตร์เรย์ ประเทศเม็กซิโก แม้ว่าที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ขู่ว่าจะเก็บภาษีนำเข้ารถยนต์และสินค้าอื่น ๆ จากเม็กซิโกก็ตาม
วอลโว่ซึ่งผลิตรถบรรทุกวอลโว่และแม็ก (Mack) ได้ตั้งเป้าหมายการขยายตัวในอเมริกาเหนือ ซึ่งคิดเป็นประมาณ 30% ของรายได้ของบริษัท โดยโรงงานแห่งใหม่นี้คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 2569 และจะส่งมอบรถบรรทุกให้กับสหรัฐฯ เม็กซิโก แคนาดา และลาตินอเมริกา
ทรัมป์กล่าวว่า หลังพิธีสาบานตนในวันที่ 20 ม.ค. เขาจะลงนามเอกสารที่จำเป็นทั้งหมดทันทีเพื่อเริ่มเก็บภาษีนำเข้า 25% จากเม็กซิโกและแคนาดา หากสองประเทศนี้ไม่ควบคุมการอพยพที่ผิดกฎหมายและการลักลอบนำเข้าเฟนทานิล
ลุนด์สเต็ดต์กล่าวในการให้สัมภาษณ์กับ Reuters NEXT NewsMaker นอกรอบงาน CES 2025 ซึ่งเป็นการประชุมด้านเทคโนโลยีประจำปีในลาสเวกัสว่า “โครงการในเม็กซิโกอยู่ในระยะเริ่มต้นและยังคงดำเนินการต่อไป” และระบุว่าวอลโว่มีทางเลือกที่จะใช้โรงงานแห่งนี้สำหรับการจำหน่ายนอกสหรัฐฯ
เขากล่าวว่า “นี่ไม่ใช่การทดแทนโรงงานของเราในอเมริกา” โดยโรงงานในเม็กซิโกอาจส่งรถบรรทุกไปยังสหรัฐฯ หรือไม่ก็ได้ ขึ้นอยู่กับสิ่งที่จะเกิดขึ้นกับภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ
ลุนด์สเต็ดต์กล่าวว่า ปัจจุบันโรงงานของวอลโว่ในสหรัฐฯ ผลิตรถบรรทุกทั้งหมด 100% ที่ขายในสหรัฐฯ และบริษัทกำลังลงทุนในโรงงานที่เวอร์จิเนีย แมริแลนด์ และเพนซิลเวเนีย เพื่อขยายกำลังการผลิต
ทั้งนี้ นโยบายการเก็บภาษีนำเข้าของทรัมป์ได้สร้างแรงสั่นสะเทือนในอุตสาหกรรมยานยนต์ เนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์หลายราย เช่น บีเอ็มดับเบิลยู (BMW), โตโยต้า (Toyota) และเจนเนอรัล มอเตอร์ส (General Motors) ได้เข้าลงทุนในโรงงานที่เม็กซิโกเพื่อใช้ประโยชน์จากต้นทุนแรงงานที่ต่ำและนโยบายที่เป็นมิตรต่อธุรกิจ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (09 ม.ค. 68)
Tags: Volvo, รถบรรทุก, วอลโว่, สหรัฐ