รมว.คมนาคม เร่งเครื่องรถไฟทางคู่บ้านไผ่-นครพนมให้แล้วเสร็จปี 71 พร้อมถนนเชื่อมสะพานมิตรภาพ3

นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า การลงพื้นที่จังหวัดนครพนมในครั้งนี้ เพื่อติดตามความคืบหน้าการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่-นครพนม และโครงการก่อสร้างถนนสายเชื่อมศูนย์ซ่อมอากาศยาน-ศูนย์กลางการค้าส่งชายแดน บริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3-ถนนเชื่อมทางหลวงหมายเลข 212 อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม ซึ่งจังหวัดนครพนมไม่ได้เป็นเพียงประตูสู่การค้าชายแดน แต่ยังเป็นศูนย์กลางสำคัญสำหรับการพัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (อีสาน) ในภาพรวม โดยยืนยันว่า จะเร่งรัดการดำเนินโครงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งในพื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับความคืบหน้าโครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ สายบ้านไผ่-นครพนม ระยะทาง 354 กิโลเมตร (กม.) แบ่งออกเป็น 2 สัญญาได้แก่ สัญญาที่ 1 บ้านไผ่-หนองพอก ระยะทาง 177.50 กม. สัญญาที่ 2 หนองพอก-สะพานมิตรภาพ 3 ระยะทาง 177.28 กม. รวมถึงการสร้างสะพานข้ามทางรถไฟ (Overpass) และทางลอดใต้ทางรถไฟ (Underpass) เพื่อแก้ไขปัญหาจุดตัดทางรถไฟและอำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าและผู้โดยสาร

โดยในขณะนี้ อยู่ระหว่างการก่อสร้างสถานีรถไฟ สะพาน และคันทางรถไฟในหลายพื้นที่ โครงการดังกล่าว ประกอบด้วย การก่อสร้างสถานีรถไฟ 18 สถานี ป้ายหยุดรถไฟ 12 แห่ง และลานกองเก็บสินค้า (Container Yard) 3 แห่ง (สถานีร้อยเอ็ด สถานีสะพานมิตรภาพ 2 และสถานีสะพานมิตรภาพ 3) ลานบรรทุกตู้สินค้า 3 แห่ง (สถานีภูเหล็ก สถานีมหาสารคาม และสถานีโพนทอง) คาดว่างานก่อสร้างจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการ ในปี 2571

ทั้งนี้ ได้สั่งการให้ รฟท. รายงานเหตุผลของการล่าช้าในการส่งมอบพื้นที่ก่อสร้างมายังกระทรวงคมนาคม เพื่อเป็นการป้องกันมิให้ผู้รับเหมาอ้างเหตุผลดังกล่าวในการขอผ่อนผันหรือลดค่าปรับ อีกทั้งได้มอบหมายให้มีการปรับแผนงานก่อสร้างให้มีความชัดเจนและมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น พร้อมทั้งกำหนดมาตรการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ และไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสะดวกของประชาชนและการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ

นายสุริยะ กล่าวต่อว่า ขณะที่โครงการก่อสร้างถนนสายเชื่อมศูนย์ซ่อมอากาศยาน-ศูนย์กลางการค้าส่งชายแดน บริเวณสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3-ถนนเชื่อมทางหลวงหมายเลข 212 อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เกิดขึ้นจากความต้องการในการเพิ่มประสิทธิภาพของโครงข่ายคมนาคมขนส่งและการเชื่อมต่อระหว่างสนามบินนครพนมกับสะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 มีความยาวรวม 13 กม.

ทั้งนี้ มีการออกแบบให้รองรับการเดินทางของทั้งรถบรรทุกสินค้าขนาดใหญ่และรถยนต์ส่วนบุคคล ประกอบด้วยสะพานข้ามทางแยก จุดเชื่อมต่อกับทางหลวงหมายเลข 212 และพื้นที่พักรถบริเวณใกล้สะพานมิตรภาพแห่งที่ 3 ปัจจุบันการก่อสร้างมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง โดยมีการเบิกจ่ายงบประมาณแล้ว 520,187,894.23 บาท จากงบประมาณทั้งหมด 949,000,000 บาท หรือคิดเป็น 54.81% (ณ เดือนธันวาคม 2567) ซึ่งได้กำชับให้กรมทางหลวงชนบท (ทช.) ควบคุมการก่อสร้างให้แล้วเสร็จภายในปี 2569

อย่างไรก็ตาม เมื่อโครงการเหล่านี้แล้วเสร็จ จะสร้างประโยชน์สำคัญต่อประชาชนในพื้นที่ ช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกในระยะยาว ทั้งการเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจและการค้า ช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมจากภาคอีสานไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สปป.ลาว เวียดนาม และจีน ดึงดูดนักลงทุนจากภาคเอกชนในพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ ส่งเสริมการเดินทางและการเชื่อมโยงระหว่างประเทศ ประชาชนสามารถเดินทางได้สะดวก รวดเร็วและปลอดภัยมากขึ้น สนับสนุนการท่องเที่ยวในจังหวัดนครพนมและพื้นที่ใกล้เคียง และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ เพิ่มโอกาสการจ้างงานในภาคโลจิสติกส์ การค้าชายแดน และการพัฒนาพื้นที่จังหวัดนครพนมและภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่างยั่งยืน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ม.ค. 68)

Tags: , , ,
Back to Top