ผลสำรวจที่จัดทำโดยเอสแอนด์พี โกลบอล (S&P Global) เปิดเผยในวันนี้ (6 ม.ค.) ว่า เศรษฐกิจยูโรโซนจบปี 2567 ไปแบบไม่สวย กิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมหดตัวเป็นเดือนที่สองติดต่อกันในเดือนธ.ค. แม้ภาคบริการมีการฟื้นตัวขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ไม่สามารถชดเชยภาวะตกต่ำที่รุนแรงขึ้นในภาคการผลิตได้
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิต-ภาคบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซนจาก HCOB ซึ่งถือเป็นตัวชี้วัดที่ดีของภาวะเศรษฐกิจโดยรวม ปรับตัวขึ้นเป็น 49.6 ในเดือนธ.ค. จาก 48.3 ในเดือนพ.ย. สูงกว่าค่าประมาณการเบื้องต้นที่ 49.5 เพียงเล็กน้อย
ทั้งนี้ ดัชนีที่อยู่สูงกว่า 50 บ่งชี้ว่ากิจกรรมทางธุรกิจอยู่ในภาวะขยายตัว ส่วนดัชนีที่ต่ำกว่า 50 บ่งชี้ว่าอยู่ในภาวะหดตัว
ด้านดัชนี PMI ภาคบริการขั้นสุดท้ายของยูโรโซนฟื้นตัวกลับมาเหนือระดับ 50 เป็น 51.6 ในเดือนธ.ค. จาก 49.5 ในเดือนพ.ย.
“ข้อมูล PMI เดือนธ.ค.ไม่ได้เป็นสัญญาณที่ดีที่จะทำให้คาดหวังได้ว่าภาคบริการจะบูมในปี 2568 แต่อย่างน้อยธุรกิจใหม่ที่เข้ามาก็ไม่ได้ลดลงอีกแล้ว และแบ็คล็อกก็ไม่ได้ลดลงเร็วเท่าเดิม” ไซรัส เดอ ลา รูเบีย หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ของฮัมบูร์ก คอมเมอร์เชียล แบงก์ (HCOB) กล่าว
“ผู้ให้บริการนับว่าโชคดีที่ตัวเองไม่ได้รับผลกระทบโดยตรงจากภาษีศุลกากรของสหรัฐฯ เหมือนกับผู้ผลิต โดยรวมแล้ว ผู้ให้บริการควรจะช่วยให้มั่นใจได้ว่า ความอ่อนแอของภาคอุตสาหกรรมจะไม่ฉุดรั้งเศรษฐกิจโดยรวมในปี 2568”
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ม.ค. 68)
Tags: PMI, เศรษฐกิจยูโรโซน