อินโดนีเซียขาดดุลงบประมาณปี 67 น้อยกว่าคาดที่ 2.29% ของ GDP

ทางการอินโดนีเซียเปิดเผยในวันนี้ (6 ม.ค.) ว่า ตัวเลขขาดดุลงบประมาณปี 2567 ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบ อยู่ที่ 507.8 ล้านล้านรูเปียห์ (3.138 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) หรือคิดเป็น 2.29% ของ GDP

ตัวเลขดังกล่าวน้อยกว่าที่กระทรวงการคลังเคยประเมินไว้ว่าจะขาดดุลที่ 2.7% ของ GDP ในปี 2567 แต่สูงกว่าปี 2566 ที่ขาดดุล 1.61% ของ GDP ขณะที่คาดการณ์ว่าปี 2568 จะขาดดุล 2.53% ของ GDP

ศรี มุลยานี อินทราวตี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง แถลงข่าวว่า ตัวเลขขาดดุลที่ต่ำกว่าคาดนี้ถือเป็น “รากฐานสำคัญสำหรับการเปลี่ยนผ่านรัฐบาล” หลังจากที่ปราโบโว ซูเบียนโต เข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีคนใหม่เมื่อเดือนต.ค.ที่ผ่านมา พร้อมเสริมว่า “สถานการณ์ดีกว่าที่เราคาดการณ์ไว้มากเมื่อกลางปีที่แล้ว” โดยรายได้จากภาษีเริ่มฟื้นตัวในไตรมาสสุดท้าย หลังจากที่หดตัวในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2567

นอกจากนี้ ข้อมูลยังแสดงให้เห็นว่า รัฐบาลมีเงินสดเหลือจากการระดมทุนด้วยการออกพันธบัตรเมื่อปีที่แล้วถึง 45.4 ล้านล้านรูเปียห์ ซึ่งเงินส่วนเกินนี้ รัฐบาลอาจนำไปใช้ลดแผนการออกพันธบัตรในปีหน้าได้อีกด้วย

รมว.คลังอินโดนีเซียกล่าวด้วยว่า ตัวเลขขาดดุลที่น้อยกว่าคาดจะช่วยให้เศรษฐกิจมีเสถียรภาพในปี 2568 แม้ว่านักเศรษฐศาสตร์จะเตือนว่าอาจเผชิญความไม่แน่นอนจากนโยบายของสหรัฐฯ ภายใต้การนำของโดนัลด์ ทรัมป์

ทั้งนี้ ตลาดการเงินในอินโดนีเซียกำลังจับตาดูนโยบายการคลังของรัฐบาลอย่างใกล้ชิด หลังจากที่ปธน.ปราโบโวส่งสัญญาณว่าจะใช้เงินกู้มากขึ้นเพื่อผลักดันโครงการสำคัญต่าง ๆ เช่น การขยายพื้นที่เกษตร และโครงการอาหารกลางวันฟรีในโรงเรียน ซึ่งโครงการอาหารกลางวันฟรีใช้งบประมาณ 71 ล้านล้านรูเปียห์ และเริ่มดำเนินการในวันนี้

ในปี 2567 รัฐบาลมีรายได้รวม 2,842.5 ล้านล้านรูเปียห์ เพิ่มขึ้น 2.1% จากปีก่อนหน้า ขณะที่รายจ่ายอยู่ที่ 3,350.3 ล้านล้านรูเปียห์ เพิ่มขึ้น 7.3% จากปีก่อนหน้า ส่วนรายจ่ายที่วางแผนไว้สำหรับปี 2568 อยู่ที่ 3,621.3 ล้านล้านรูเปียห์

นอกจากนี้ รมว.คลังยังเปิดเผยว่า อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของอินโดนีเซียในปี 2567 คาดว่าจะอยู่ที่ราว 5% ซึ่งใกล้เคียงกับปี 2566 ที่เติบโต 5.05%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (06 ม.ค. 68)

Tags: ,
Back to Top