สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานอ้างการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ 2 รายว่า คณะบริหารของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้แจ้งต่อสภาคองเกรสถึงข้อเสนอขายอาวุธมูลค่า 8 พันล้านดอลลาร์ให้แก่อิสราเอล
แหล่งข่าวเผยว่า ข้อตกลงขายอาวุธล่าสุดประกอบไปด้วยขีปนาวุธอากาศสู่อากาศ AIM-120C-8 สำหรับป้องกันโดรนและภัยคุกคามทางอากาศอื่น ๆ กระสุนปืนใหญ่ 155 มม. ขีปนาวุธ Hellfire AGM-114 ตลอดจนระเบิดและระบบนำวิถีอื่น ๆ โดยอาวุธบางส่วนอาจจัดหาได้จากคลังอาวุธของสหรัฐฯ ที่มีอยู่ในปัจจุบัน ขณะที่ส่วนใหญ่อาจต้องใช้เวลาหลายปีในการส่งมอบ
ทั้งนี้ ข้อตกลงดังกล่าวจะต้องได้รับการอนุมัติจากสภาผู้แทนราษฎรและคณะกรรมการวุฒิสภา
แหล่งข่าวรายหนึ่งกล่าวว่า ไบเดนชี้แจงอย่างชัดเจนว่าอิสราเอลมีสิทธิที่จะปกป้องพลเมืองของตน “ตามกฎหมายระหว่างประเทศและกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ” และสหรัฐฯ จะยังคงจัดหาขีดความสามารถที่จำเป็นสำหรับการป้องกันอิสราเอลต่อไป
แม้มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากนานาประเทศเกี่ยวกับการสู้รบซึ่งทำให้ประชากรเกือบ 2.3 ล้านคนในฉนวนกาซาต้องพลัดถิ่นฐาน ก่อให้เกิดวิกฤตความอดอยาก ตลอดจนเผชิญกับการประท้วงเรียกร้องให้หยุดจัดส่งอาวุธแก่อิสราเอล แต่สหรัฐฯ ซึ่งเป็นผู้จัดหาอาวุธรายใหญ่ และเป็นพันธมิตรรายสำคัญที่สุด ยังคงยืนหยัดเคียงข้างอิสราเอล
ในเดือนสิงหาคม สหรัฐฯ ได้อนุมัติการขายเครื่องบินรบและอุปกรณ์ทางทหารอื่น ๆ มูลค่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์ให้กับอิสราเอล โดยให้เหตุผลว่าเพื่อช่วยเหลือพันธมิตรป้องกันประเทศจากกลุ่มติดอาวุธที่ได้รับการสนับสนุนจากอิหร่าน เช่น ฮามาสในฉนวนกาซา ฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอน และฮูตีในเยเมน
ทั้งนี้ ไบเดนจะหมดวาระการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในวันที่ 20 มกราคม และโดนัลด์ ทรัมป์ จะทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งต่อจากไบเดน โดยทั้งคู่ต่างชูนโยบายให้การสนับสนุนอิสราเอล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (05 ม.ค. 68)
Tags: สหรัฐ, อาวุธ, อิสราเอล