สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 2% ในวันพฤหัสบดี (2 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและอุปสงค์เชื้อเพลิงในประเทศจีน หลังจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีนได้ให้คำมั่นว่าจะใช้นโยบายเชิงรุกเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในปี 2568
- ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.41 ดอลลาร์ หรือ 1.97% ปิดที่ 73.13 ดอลลาร์/บาร์เรล
- ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ หรือ 1.73% ปิดที่ 75.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
ปธน.สีได้กล่าวสุนทรพจน์เนื่องในเทศกาลปีใหม่เมื่อวันอังคารที่ 31 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า เขามีความเชื่อมั่นว่าจีนจะบรรลุเป้าหมายรการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ระดับ 5% ในปี 2567 พร้อมกับให้คำมั่นสัญญาว่าจะเร่งดำเนินโยบายเชิงรุกมากขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจให้เติบโตในปี 2568
รายงานระบุว่า รัฐบาลจีนมีแนวโน้มที่จะกำหนดเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจสำหรับปี 2568 ในระดับเดียวกับในปี 2567 นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่จีนยังส่งสัญญาณถึงความพร้อมที่จะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม เพื่อจะช่วยให้จีนสามารถรับมือกับผลกระทบจากมาตรการภาษีศุลกากรของโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ
ผลสำรวจซึ่งจัดทำโดยไฉซิน/เอสแอนด์พี โกลบอล (Caixin/S&P Global) ระบุว่าดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ปรับตัวลงสู่ระดับ 50.5 ในเดือนธ.ค. จากระดับ 51.5 ในเดือนพ.ย. แต่นักวิเคราะห์บางรายมองว่าข้อมูลดังกล่าวเป็นปัจจัยบวกต่อราคาน้ำมัน เนื่องจากข้อมูลที่อ่อนแอนี้อาจจะเป็นแรงผลักดันให้รัฐบาลจีนเร่งออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม
สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ลดลง 1.2 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะลดลง 2.4 ล้านบาร์เรล
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ม.ค. 68)
Tags: WTI, น้ำมัน WTI, ราคาน้ำมัน