จีนอาจพลาดเป้าปี 68 ในการลดมลพิษจากอุตสาหกรรมเหล็ก

จีนมีแนวโน้มที่จะไม่สามารถบรรลุเป้าหมายการผลิตเหล็กที่มีการปล่อยมลพิษน้อยลงภายในสิ้นปีนี้ เนื่องจากอัตราการใช้เตาหลอมที่สะอาดและทันสมัยชะลอตัวลง อีกทั้งวิกฤตด้านอสังหาริมทรัพย์ส่งผลกระทบต่อความต้องการและราคา

สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า จีนเป็นทั้งประเทศที่ปล่อยมลพิษมากที่สุดและผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่ที่สุดของโลก ความพยายามในการผลิตเหล็กแบบสะอาดนั้นเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ที่มุ่งหวังที่จะบรรลุเป้าหมายด้านสภาพภูมิอากาศ แม้ว่าทางการจะพยายามกระตุ้นเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงด้วย สำหรับอุตสาหกรรมเหล็กนั้น รัฐบาลตั้งเป้าหมายให้เตาอาร์คไฟฟ้า (electric-arc furnaces) ผลิตเหล็กให้ได้มากกว่า 15% ของผลผลิตทั้งหมดภายในสิ้นปี 2568

ข้อมูลจากฟูเป่า อินฟอร์เมชัน (Fubao Information) ผู้ให้บริการข้อมูลในเซี่ยงไฮ้ ที่อ้างอิงจากการสำรวจโรงงานกว่า 100 แห่ง พบว่า อัตราการดำเนินงานเฉลี่ยของเตาหลอมเหล่านี้ ซึ่งหลอมเหล็กเก่าขึ้นใหม่โดยไม่ใช้ถ่านหิน อยู่ที่ 49% ในปี 2567 ลดลงจาก 54% ในปี 2566 ซึ่งเป็นอัตราต่ำสุดนับตั้งแต่มีการบันทึกข้อมูลตั้งแต่ปี 2564

“เป็นที่แน่ชัดว่าจะไม่สามารถบรรลุเป้าหมาย 15%” สู เซียงชุน นักวิเคราะห์จากมายสตีล โกลบอล (Mysteel Global) ระบุ “มีกำลังการผลิตของเตาหลอมไฟฟ้าเพียงพอที่จะบรรลุเป้าหมายนั้น แต่ยอดขายที่ซบเซาและราคาที่ตกต่ำทำให้ต้องลดการผลิต เนื่องจากเตาหลอมไฟฟ้าผลิตเหล็กก่อสร้างเป็นหลัก ซึ่งได้รับผลกระทบมากที่สุด”

ทั้งนี้ เตาหลอมไฟฟ้าเป็นวิธีการผลิตเหล็กที่สร้างมลพิษน้อยกว่าเตาหลอมแบบดั้งเดิมที่ใช้ถ่านหิน ซึ่งครองอุตสาหกรรมเหล็กของจีนมาอย่างยาวนาน โดยภาคส่วนนี้มีส่วนในการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ทั้งหมดของโลกราว 7%

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ม.ค. 68)

Tags: , ,
Back to Top