โบรกระบุเก็บ Global Minimum Tax 15% เริ่มแล้ว 1 ม.ค.68 เข้าข่ายกระทบ 4 กลุ่ม

บล.กรุงศรี (KSS) ออกบทวิเคราะห์ เกี่ยวกับประเด็น Global Minimum Tax โดยระบุว่า อธิบดีกรมสรรพากรเผยว่าไทยประกาศเก็บภาษีบริษัทข้ามชาติขั้นต่ำ 15% เริ่มมีผล 1 ม.ค.68 กับบริษัทที่มีรายได้รวมมากกว่า 750 ล้านยูโรต่อปี

KSS ประเมินหุ้นกลุ่มที่เข้าข่ายคาดจะได้รับผลกระทบ อาทิ 1. กลุ่มส่งออกอาหาร คือ TU (Effective tax rate 7-8%) ส่วนที่คาดจะกระทบคือ บริษัทในเครือที่อยู่ในไทยราว 35% ที่ได้รับ BOI โดยรวมคาดกระทบต่อประมาณการกำไรปกติปี 68 จำกัดในกรอบ 3-8% 2.) ชิ้นส่วนคือ DELTA (Effective tax rate 5.5%) คาดกระทบต่อประมาณการกำไรปี 68 มี downside risk ราว 12% ในกรณีที่ effective tax rate เพิ่มสู่ 15%

3.) กลุ่มโรงไฟฟ้า บางส่วนปัจจุบัน Effective Tax Rate อยู่ราว 5-10% หากนับเฉพาะผลกระทบภาษีคาดกำไรสุทธิจะกระทบอยู่ระหว่าง 5-10%

ทั้งนี้ ในส่วนรายละเอียดรายตัว GULF จากการลงทุนต่างประเทศของบริษัท มองฐานรายได้และกำไรที่เติบโตต่อเนื่องจากธุรกิจหลักและการเปลี่ยนผ่านไปสู่ New Co จะทำให้ผลกระทบจำกัดและบริหารจัดการภาษีภายในได้, BGRIM มีลงทุนต่างประเทศและเป็นการ Conso คาดกระทบ ส่วนหุ้นโรงไฟฟ้าที่กระทบน้อย คือ GPSC ส่วนมากรับรู้เป็น equity income ส่วน RATCH และ EGCO กระทบน้อยจากฐานภาษีสูงใกล้เคียง 15%

4.) กลุ่ม Packaging หุ้น SCGP มีธุรกิจที่เวียดนาม (14% ของรายได้) ที่อาจต้องเสียภาษีเพิ่มเติม แต่มองผลกระทบต่อภาพรวมจำกัด ประเมินเป็นจิตวิทยาลบอ่อนๆ

กลยุทธ์เราประเมินหุ้นที่มีความเสี่ยงกระทบ ส่วนใหญ่ทยอยปรับตัวลงสะท้อนตั้งแต่ต้น-กลางเดือน ธ.ค.67 แต่หากอิงโอกาสที่รัฐฯน่าจะต้องหาช่องทางสนับสนุนเงินคืนเพื่อลดผลกระทบ รวมถึงการบริหารภาษีภายในบริษัทต่างๆ คาดผลกระทบจะจำกัดกว่าที่ประเมินข้างต้น

เชิงกลยุทธ์แนะนำตั้งรับหุ้นที่อยู่ในกลุ่มที่เป็น New S-Curve ของไทยระยะถัดไป อาทิ โรงไฟฟ้า ที่อยู่ในธีม Infra Tech เน้น GULF GPSC

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (02 ม.ค. 68)

Tags: , , ,
Back to Top