มท.1 สั่งเร่งสอบเหตุไฟไหม้รร.ย่านข้าวสาร กำชับผู้ว่าฯ ทั่วประเทศตรวจเข้มรับปีใหม่ป้องกันซ้ำรอย

น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล เลขานุการ รมว.มหาดไทย และ โฆษกกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย มีข้อสั่งการให้กรุงเทพมหานคร (กทม.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งสอบสวนหาสาเหตุ และดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายอย่างเข้มงวด จากเหตุเพลิงไหม้โรงแรมบริเวณถนนตานี เขตพระนคร กทม. และมีผู้เสียชีวิตในเหตุการณ์ 3 ราย ซึ่งอาจกระทบต่อการท่องเที่ยว เนื่องจากโรงแรมที่เกิดเหตุตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวสำคัญซึ่งเป็นที่รู้จักของทั้งชาวไทยและต่างชาติอย่างถนนข้าวสาร

เหตุไฟไหม้ดังกล่าว เกิดเมื่อเวลา 21.21 น. บริเวณชั้น 5 ของโรงแรม ต้นเพลิงเกิดขึ้นที่ชั้น 5 ภายในห้องเลขที่ 511 เพลิงลุกไหม้ห้องต้นเพลิงเสียหายหมดทั้งห้องรถดับเพลิงใช้น้ำทำการดับเพลิงสงบ ข้อสันนิษฐานเบื้องต้นสาเหตุเพลิงไหม้ไม่ทราบสาเหตุเนื่องจากเพลิงลุกไหม้เสียหายหมดทั้งห้อง ที่เกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 7 ราย เป็นชาวไทย 2 ราย ชาวต่างชาติ 5 ราย ผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย เป็นชาวต่างชาติทั้งหมด

“มท.1 ให้ผู้เกี่ยวข้องเร่งสอบสวนถึงสาเหตุเพลิงไหม้ที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากเหตุสุดวิสัย เป็นอุบัติเหตุ หรือความประมาท เจ้าของสถานที่ได้ดูแลป้องกันเหตุตามกฎหมาย หรือมาตรฐานความปลอดภัยหรือไม่ และดำเนินตามกฎหมายอย่างเข้มงวด ต้องแสดงให้เห็นว่าทางการมีกฎหมายดูแลเรื่องความปลอดภัยที่ชัดเจนที่ผู้เกี่ยวข้องต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด” น.ส.ไตรศุลี กล่าว

พร้อมกันนี้ นายอนุทิน ได้กำชับไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศให้ประสานงานกับหน่วยงานท้องถิ่นอย่างใกล้ชิด เพื่อดำเนินการตรวจสอบด้านความปลอดภัยของโรงแรมที่พัก ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยว สถานบันเทิงต่าง ๆ เนื่องจากขณะนี้อยู่ในช่วงของเทศกาลปีใหม่ที่ประชาชน นักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศเดินทางท่องเที่ยว มีการรวมตัวของคนจำนวนมาก ดูแลให้โรงแรมที่พัก สถานที่ท่องเที่ยวอยู่ในสภาพที่มีความพร้อม ปลอดภัย ทั้งในส่วนของโครงสร้างตัวอาคาร ทางเข้า-ออก ระบบไฟฟ้า แผนการรับมือเมื่อเกิดเหตุต่างๆ เพื่อป้องกันการเกิดเหตุซ้ำจนนำไปสู่ความสูญเสีย

นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯ กทม. กล่าวว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบโรงแรมมีบันไดหนีไฟ แต่ต้องไปตรวจสอบว่ามีการทำถูกต้องครบถ้วนหรือไม่ มีระบบเตือนภัยแต่ไม่แน่ใจว่าตอนที่ทำมีการเตือนภัยที่ถูกต้องหรือไม่อย่างไร ต้องมีการเข้าไปตรวจสอบและพิสูจน์หลักฐานอีกครั้งหนึ่ง เรื่องทางหนีไฟเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ต้องมีการตรวจสอบว่าคนสามารถหนีไฟได้ มีป้ายบอกชัดเจน มีระบบแจ้งเตือนภัย มีอุปกรณ์ดับเพลิง ได้ย้ำเตือนทุกสำนักงานเขตดูแลและออกตรวจเรื่องนี้ซ้ำ ทั้งในสถานบันเทิง โรงแรมต่าง ๆ

ในส่วนเรื่องของการควบคุมวัสดุในอาคาร ซึ่งปัจจุบันมีกฎหมายใหม่ออกมาเมื่อปี 2566 แต่ควบคุมเฉพาะอาคารก่อสร้างขนาดใหญ่ ยังไม่รวมโรงแรมที่มีขนาดน้อยกว่า 80 ห้อง ในระยะยาวต้องถอดบทเรียนเหล่านี้ โดยเฉพาะเรื่องการควบคุมวัสดุที่มีควันพิษ

ในส่วนเรื่องของการเข้าตรวจสอบโครงสร้างอาคาร หลังเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้ามาดำเนินการเรียบร้อยแล้ว สำนักการโยธา และผู้เชี่ยวชาญสมาคมวิศวกรโครงสร้างแห่งประเทศไทย จึงจะเข้าประเมินความมั่นคง ความปลอดภัยต่าง ๆ อีกครั้งหนึ่ง โดยย้ำว่าจะต้องดำเนินการอย่างเข้มงวด เบื้องต้นอาคารไม่มีการทรุดตัว ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้ยังไม่แน่ชัด

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ธ.ค. 67)

Tags: , , , , , , ,
Back to Top