ชเว ซังม็อก รักษาการประธานาธิบดีเกาหลีใต้ มีคำสั่งในวันนี้ (30 ธ.ค.) ให้ดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยระบบการบินทั้งประเทศอย่างเร่งด่วน หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจกู้ภัยจากเหตุเครื่องบินสายการบิน Jeju Air ลงจอดกระแทกพื้นก่อนจะไถลออกนอกรันเวย์ พุ่งชนกำแพงจนเกิดไฟลุกท่วม ณ สนามบินนานาชาติมูอัน
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวนับเป็นโศกนาฏกรรมทางอากาศครั้งร้ายแรงที่สุดของเกาหลีใต้ โดยเที่ยวบินที่ 7C2216 ของสายการบิน Jeju Air ซึ่งเดินทางมาจากกรุงเทพมหานคร พร้อมผู้โดยสาร 175 คน และลูกเรือ 6 คน ประสบเหตุขณะพยายามลงจอดเมื่อเวลาประมาณ 9.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ของวันอาทิตย์ (29 ธ.ค.) ณ สนามบินนานาชาติมูอัน ทางตอนใต้ของประเทศ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 179 ราย
ขณะนี้ ลูกเรือ 2 คนที่รอดชีวิตกำลังรักษาตัวจากอาการบาดเจ็บ
รักษาการปธน.ชเวแถลงในที่ประชุมการจัดการภัยพิบัติ ณ กรุงโซลว่า ภารกิจเร่งด่วนขณะนี้คือการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต ให้ความช่วยเหลือครอบครัวผู้สูญเสีย และให้การรักษาพยาบาลผู้รอดชีวิต 2 รายอย่างเต็มกำลัง
“ถึงแม้ผลการสอบสวนยังไม่ออกมาอย่างเป็นทางการ แต่เราขอให้เจ้าหน้าที่เปิดเผยกระบวนการสอบสวนอุบัติเหตุอย่างโปร่งใส และแจ้งให้ครอบครัวผู้สูญเสียทราบโดยเร็ว” รักษาการปธน.ชเวกล่าว
“ทันทีที่ภารกิจกู้ภัยเสร็จสิ้น ขอให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการตรวจสอบความปลอดภัยระบบการบินทั้งหมดอย่างเร่งด่วน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุเช่นนี้ขึ้นอีก”
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเปิดเผยว่า ขณะนี้คณะสอบสวนกำลังพิจารณาว่า การชนกับนกและสภาพอากาศอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุหรือไม่ ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญตั้งข้อสังเกตว่า ยังมีประเด็นที่ต้องสืบสวนอีกหลายประการ เช่น เหตุใดเครื่องบินจึงมีความเร็วสูงผิดปกติ และเหตุใดฐานล้อลงจอดจึงไม่กางออกขณะที่เครื่องบินไถลไปตามรันเวย์ก่อนพุ่งชนกำแพง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ธ.ค. 67)
Tags: jeju air, การบิน, ชเว ซังม็อก, ระบบการบิน, สายการบิน, เกาหลีใต้, เครื่องบิน