ฟินแลนด์พบรอยครูดใต้ทะเลบอลติก คาดเรือบรรทุกน้ำมันรัสเซียลากสมอทำลายสายเคเบิล

ตำรวจฟินแลนด์แถลงเมื่อวันอาทิตย์ (29 ธ.ค.) ว่า พบรอยครูดเป็นทางยาวหลายสิบกิโลเมตรใต้ทะเลบอลติก คาดว่าเป็นฝีมือของเรือบรรทุกน้ำมันรัสเซียที่ลากสมอครูดไปกับพื้นทะเลจนทำให้สายไฟฟ้าและสายเคเบิลสื่อสาร 4 เส้นเสียหาย

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า เรือบรรทุกน้ำมัน Eagle S ซึ่งจดทะเบียนในหมู่เกาะคุก ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยยามฝั่งฟินแลนด์ขึ้นตรวจสอบบนเรือเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (26 ธ.ค.) ก่อนจะถูกนำเข้ามายังน่านน้ำฟินแลนด์เพื่อสอบปากคำลูกเรือ

บรรดาประเทศรอบทะเลบอลติกต่างยกระดับการเฝ้าระวังขั้นสูงสุด หลังเกิดเหตุการณ์ไฟฟ้าดับ สายสื่อสารล่ม และท่อส่งก๊าซเสียหายหลายครั้ง นับตั้งแต่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนในปี 2565 โดยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (27 ธ.ค.) องค์การนาโต (NATO) ประกาศเตรียมเพิ่มกำลังทหารในภูมิภาคดังกล่าว

สายส่งไฟฟ้า Estlink 2 ขนาด 658 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งเชื่อมระหว่างฟินแลนด์กับเอสโตเนีย เกิดขัดข้องและใช้การไม่ได้ตั้งแต่ช่วงเที่ยงของวันพุธที่ผ่านมา (25 ธ.ค.) ส่งผลให้เหลือเพียงสายส่ง Estlink 1 ขนาด 358 เมกะวัตต์ ที่ยังคงเชื่อมต่อระหว่างสองประเทศ ผู้ให้บริการโครงข่ายไฟฟ้าคาดการณ์ว่า สายส่ง Estlink 2 อาจต้องใช้เวลาซ่อมแซมจนถึงเดือนส.ค.

เจ้าหน้าที่ตำรวจฟินแลนด์สันนิษฐานว่า เรือ Eagle S เป็นต้นเหตุของความเสียหาย โดยลากสมอเรือไปตามพื้นทะเล

ซามิ ไพลา หัวหน้าชุดปฏิบัติการและผู้กำกับการสืบสวนจากสำนักงานสืบสวนแห่งชาติฟินแลนด์ เปิดเผยว่า ทีมสืบสวนพบ “ร่องรอยการลากครูด” แต่ยังไม่พบสมอเรือที่สูญหาย โดยจากภาพถ่ายของเรือ Eagle S เมื่อวันศุกร์นั้น พบว่าสมอเรือด้านกราบซ้ายหายไป

ด้านหน่วยงานศุลกากรฟินแลนด์เชื่อว่า เรือลำดังกล่าวเป็นหนึ่งใน “กองเรือมืด” (Shadow fleet) ซึ่งประกอบด้วยเรือบรรทุกน้ำมันเก่าที่ถูกนำมาใช้ลักลอบขนส่งน้ำมันเพื่อหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของรัสเซีย

ขณะเดียวกัน ทำเนียบเครมลินของรัสเซียแถลงเมื่อวันศุกร์ว่า การที่ฟินแลนด์เข้ายึดเรือลำดังกล่าวนั้นแทบไม่มีผลกระทบใด ๆ ต่อรัสเซีย

ทั้งนี้ รัสเซียปฏิเสธว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ที่สร้างความเสียหายแก่โครงสร้างพื้นฐานในทะเลบอลติกก่อนหน้านี้แต่อย่างใด

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (30 ธ.ค. 67)

Tags: ,
Back to Top