ภูมิใจไทย รอดคดียุบพรรค กกต.ยกคำร้องปมเงินบริจาค ชี้ไร้หลักฐาน

สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สั่งยุติปมรับเงินบริจาคพรรคภูมิใจไทย โดยระบุว่า ยังไม่ปรากฏพยานหลักฐาน

ตามที่ได้รับคำร้อง ของนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์, นายภัทรพงศ์ ศุภักษร, นายศรีสุวรรณ จรรยา และนายธีรยุทธ สุวรรณเกสร ว่าการกระทำของพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ที่รับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด จากนายศุภวัฒน์ เกษมสุทธิ์ บริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ (1991) จำกัด และห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัค ชั่น อาจเป็นการรับบริจาคโดยรู้หรือควรรู้ว่าได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 72 เป็นเหตุแห่งการยุบพรรคการเมืองนั้น

นายทะเบียนพรรคการเมืองได้พิจารณาคำร้องของผู้ร้องทั้ง 4 ราย ประกอบความเห็นของคณะกรรมการรวบรวมข้อเท็จจริง และความเห็นคณะอนุกรรมการ ที่ปรึกษานายทะเบียนพรรคการเมือง เห็นว่า กรณีห้างหุ้นส่วนจำกัด บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น บริจาคเงินให้แก่พรรค ภท. โดยเงินบริจาคซึ่งได้มาจากการกระทำความผิด ตามกฎหมายเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ และการขัดกันแห่งประโยชน์นั้น

ข้อเท็จจริงยังไม่ปรากฏพยานหลักฐานว่า พรรคภูมิใจไทย ได้รับบริจาคโดยรู้หรือควรรู้ว่าเงินบริจาคได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 72 ชั้นนี้ จึงให้ยุติเรื่อง

ทั้งนี้ หากปรากฏพยานหลักฐานใหม่ภายหลังตามคำพิพากษาของศาลว่าผู้บริจาคกระทำผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ นายทะเบียนพรรคการเมืองจะยกขึ้นพิจารณาใหม่

ส่วนกรณีนายศุภวัฒน์ เป็นการบริจาคงานวิจัย และบริษัท ศิลาชัย บุรีรัมย์ (จำกัด) เป็นการบริจาคเงิน โดยทั้งสองกรณี ไม่ปรากฏหลักฐานว่า พรรคภูมิใจไทย รับบริจาคโดยรู้หรือควรรู้ว่าเงินหรือทรัพย์สินที่นำมาบริจาคได้มาโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาไม่ชอบด้วยกฎหมาย จึงให้ยกคำร้อง

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (28 ธ.ค. 67)

Tags: ,
Back to Top