ดัชนีดาวโจนส์ปิดตลาดวานนี้ปรับตัวขึ้นเพียง 0.16% ท่ามกลางปริมาณการซื้อขายที่เบาบางขณะเข้าใกล้ช่วงวันหยุดในเทศกาลคริสต์มาส
สถิติบ่งชี้ว่า ปรากฏการณ์ “ซานต้า แรลลี่” มักผลักดันให้ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทพุ่งขึ้นในการซื้อขายช่วงเทศกาลคริสต์มาสไปจนถึงช่วงหลังปีใหม่ โดยซานต้า แรลลี่จะเกิดขึ้นเป็นเวลา 7 วันทำการ โดยเกิดขึ้นในช่วง 5 วันทำการสุดท้ายของปีปัจจุบัน รวมทั้ง 2 วันแรกของปีใหม่
อย่างไรก็ดี นายเจย์ ฮาร์ทฟิลด์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Infrastructure Capital Advisors คาดการณ์ว่า ซานต้า แรลลี่ในปีนี้ จะไม่สามารถขับเคลื่อนตลาดได้มากเหมือนกับในอดีต
นายฮาร์ทฟิลด์ยังคงให้ตัวเลขเป้าหมายดัชนี S&P 500 ที่ระดับ 6,000 จุด ณ สิ้นปี 2567 ซึ่งหมายความว่าดัชนี S&P 500 จะปรับตัวขึ้นอีกเพียง 0.4% จากระดับปิดตลาดวานนี้ที่ 5,974.07 จุด
“เราอาจเห็นซานต้า แรลลี่ แต่มันจะเป็นการแรลลี่ที่ไม่ทรงพลังมากนัก และเราให้สถานะการลงทุนที่เป็นกลางสำหรับตลาด” นายฮาร์ทฟิลด์กล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก Stock Trader’s Almanac ระบุว่า ตลาดหุ้นวอลล์สตรีทมักพุ่งขึ้นในการซื้อขายช่วงเทศกาลคริสต์มาสจนถึงช่วงหลังปีใหม่ โดยจากการรวบรวมสถิติการปรับตัวของตลาดหุ้นนิวยอร์กช่วง 7 วันของซานต้า แรลลี่ พบว่า ดัชนี S&P 500 สามารถดีดตัวขึ้นเฉลี่ย 1.3% ในช่วงเวลาดังกล่าวนับตั้งแต่ปี 2512
นอกจากนี้ สถิติบ่งชี้ว่า เดือนธ.ค.นับเป็นเดือนที่ดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 ปรับตัวดีที่สุดเป็นอันดับ 2 ของปีในปีที่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ
โดยเฉลี่ยแล้ว ดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 พุ่งขึ้น 1.3% และ 0.8% ในเดือนธ.ค.ในปีเลือกตั้งประธานาธิบดี ขณะที่ดัชนี Nasdaq ดีดตัวขึ้นเฉลี่ย 0.9% และทำสถิติปรับตัวขึ้นในเดือนธ.ค.ในปีเลือกตั้งดีที่สุดเป็นอันดับ 5 ของปี
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ธ.ค. 67)
Tags: คริสต์มาส, ซานต้า แรลลี่, ตลาดหุ้น, ตลาดหุ้นนิวยอร์ก, ตลาดหุ้นวอลล์สตรีท, ตลาดหุ้นสหรัฐ, เทศกาลคริสต์มาส