ตำรวจญี่ปุ่นเปิดเผยในวันนี้ (24 ธ.ค.) ว่า กลุ่มแฮกเกอร์ที่มีความเชื่อมโยงกับเกาหลีเหนือได้ขโมยสินทรัพย์ดิจิทัลมูลค่า 4.82 หมื่นล้านเยน (307 ล้านดอลลาร์) จากบริษัทดีเอ็มเอ็ม บิตคอยน์ (DMM Bitcoin) ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซีในกรุงโตเกียวในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา
ตำรวจระบุว่า กลุ่มแฮกเกอร์ดังกล่าวคือ “เทรดเดอร์เทรเทอร์” (TraderTraitor) หลังจากการสืบสวนที่ดำเนินการร่วมกับกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ (เพนตากอน) และสำนักงานสอบสวนกลาง (เอฟบีไอ)
DMM Bitcoin ระบุเมื่อต้นเดือนนี้ว่า จะต้องยุติการทำธุรกิจหลังระงับบริการบางส่วน หลังจากตรวจพบการรั่วไหลของเงินที่ไม่ได้รับอนุญาตเมื่อวันที่ 31 พ.ค.
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า ตำรวจติดตามการขโมยบิตคอยน์ที่ไหลเข้าสู่บัญชีที่จัดการโดยกลุ่มเทรดเดอร์เทรเทอร์ ซึ่งต้องสงสัยว่ามีความเชื่อมโยงกับกลุ่มแฮกเกอร์ลาซารัส (Lazarus) ที่ได้รับการสนับสนุนโดยรัฐบาลเกาหลีเหนือ
ผลการสืบสวนพบว่า พนักงานของบริษัทที่จัดการบัญชีสกุลเงินดิจิทัลของ DMM Bitcoin ได้รับการติดต่อผ่านเครือข่ายลิงด์อิน (LinkedIn) โดยบุคคลที่แอบอ้างว่าเป็นผู้จัดหางาน หลังจากนั้น ผู้ก่อเหตุได้เจาะระบบจัดการกระเป๋าเงินด้วยการติดตั้งมัลแวร์และปลอมแปลงจำนวนเงินในการทำธุรกรรม รวมถึงจุดหมายปลายทางของการโอนเงิน
ในเดือนก.ย. สำนักงานบริการด้านการเงินของญี่ปุ่นได้สั่งให้ DMM Bitcoin ปรับปรุงวิธีการดำเนินงาน โดยระบุว่า โครงสร้างการบริหารความเสี่ยงของบริษัทยังไม่เพียงพอ
อย่างไรก็ดี ไม่มีลูกค้ารายใดได้รับความเสียหายทางการเงิน เนื่องจาก DMM Bitcoin ได้จัดหาเงิน 5.5 หมื่นล้านเยนจากบริษัทในเครือเพื่อชดเชยทรัพย์สินที่สูญเสียไป
ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุว่า ตำรวจ, เอฟบีไอ และรัฐบาลสหรัฐฯ รวมถึงพันธมิตรระหว่างประเทศจะยังคงเปิดโปงและปราบปรามการดำเนินกิจกรรมที่ผิดกฎหมายของเกาหลีเหนือต่อไป รวมถึงการก่ออาชญากรรมทางไซเบอร์และการขโมยเงินคริปโทฯ เพื่อหารายได้ให้กับรัฐบาลเกาหลีเหนือ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ธ.ค. 67)
Tags: คริปโทเคอร์เรนซี, ญี่ปุ่น, สินทรัพย์ดิจิทัล, แฮกเกอร์