ราคาหุ้น TOP เด้งกลับ 7.84% มาอยู่ที่ 27.50 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 339.89 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.25 น. โดยเปิดตลาดที่ 26.25 บาท ราคาปรับตัวขึ้นสูงสุดที่ 27.50 บาท และราคาปรับตัวลงต่ำสุดที่ 26.25 บาท
บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ปรับลดคำแนะนำหุ้น TOP จาก “ซื้อ” เป็น “ถือ” จากความล่าช้าของงานก่อสร้างโครงการ CFP อย่างไรก็ตาม PB ratio ในปัจจุบันอยู่ที่ 0.3 เท่า ซึ่งต่ำกว่า -2.0 S.D. (ที่ 0.4 เท่า) แปลว่าราคาหุ้นต่ำอย่างมีนัยสำคัญแล้ว
คณะกรรมการบริษัท บมจ.ไทยออยล์ [TOP] อนุมัติเพิ่มเงินลงทุนโครงการ Clean Fuel Project (CFP) อีก 6.3 หมื่นล้านบาท (1,776 ล้านดอลลาร์ฯ) บวกค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยช่วงก่อสร้างอีก 1.79 หมื่นล้านบาท (505 ล้านดอลลาร์ฯ) ทำให้ต้นทุนรวมของทั้งโครงการอยู่ที่ 2.415 แสนล้านบาท (7,151 ล้านดอลลาร์ฯ) และค่าใช้จ่ายดอกเบี้ย 3.72 หมื่นล้านบาท (1,078 ล้านดอลลาร์ฯ) โดยจะจัดประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น (EGM) ในวันที่ 21 ก.พ.68 เพื่อขออนุมัติเพิ่มการลงทุน โดยเม็ดเงินลงทุนเพิ่มเติมจะถูกใช้ในงานก่อสร้างโครงการ, การจัดซื้ออุปกรณ์และวัสดุส่วนที่เหลือ และค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องอื่นๆ อย่างเช่น ค่าที่ปรึกษา เพื่อให้มั่นใจว่าโครงการจะสร้างเสร็จและพร้อมเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้
เงินทุนโครงการ CFP จะมาจาก 3 แหล่ง ได้แก่ 1. ตราสารหนี้และสินเชื่อที่มีอยู่แล้วรวม 2.9 พันล้านดอลลาร์ฯ 2. การจัดหาเงินทุนในอนาคตจากการออกหุ้นกู้, เงินกู้จากธนาคารพาณิชย์ หรือตราสารทางเลือกที่ไม่ใช่หนี้ 1.0-1.5 พันล้านดอลลาร์ฯ และ 3. ส่วนที่เหลือจะมาจากเงินสดในมือของ TOP และกระแสเงินสดจากการดำเนินงานในอนาคต
ทั้งนี้ ที่ปรึกษาการเงินอิสระประเมินว่าต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของโครงการ CFP เหมาะสม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อลดความเสี่ยงจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ปัจจุบันของโครงการ โดย ณ ไตรมาส 3/67 โครงการ CFP มีมูลค่าการลงทุน 1.417 แสนล้านบาท (4,360 ล้านดอลลาร์ฯ) และมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยระหว่างการก่อสร้าง 1.84 หมื่นล้านบาท (555 ล้านดอลลาร์ฯ) ซึ่งคิดเป็นประมาณ 40% ของสินทรัพย์รวมของ TOP
ความล่าช้าของโครงการ CFP ทำให้เราปรับลดประมาณการกำไรสุทธิปี 69 ลง 8% เหลือ 1.73 หมื่นล้านบาท โดยได้เลื่อนกำหนดเปิดดำเนินการ Crude Distillation Unit (CDU) กำลังการผลิต 220 KBD จากช่วงต้นปี 69 เป็นไตรมาส 2/70 และของ Residue Hydrocracking Unit (RHCU) ซึ่งเป็นหน่วย upgrading ที่สำคัญ จากกลางปี 69 เป็นไตรมาส 2/71 ตามการประเมินล่าสุดของ TOP
เราปรับลดสมมติฐานอัตราการกลั่นน้ำมันดิบปี 69 ลง 6% เหลือ 310 KBD และปรับลดสมมติฐาน market GRM ลง 18% เหลือ 6.7 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล คาดโครงการ CFP จะช่วยเพิ่ม market GRM ประมาณ 4-5 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ขณะที่ TOP คาดว่าต้นทุนจะเพิ่มขึ้นประมาณ 3.4 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล (จากเดิมที่ประเมินไว้ 2.4-2.9 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรล ดังนั้น โครงการนี้ยังน่าจะลงทุนต่อให้แล้วเสร็จแม้ต้องเพิ่มการลงทุน
ขณะที่เราปรับลดราคาเป้าหมายหุ้น TOP ปี 68 ลงเหลือ 30.00 บาท จากเดิม 56.00 บาท อิงจาก EV/EBITDA เท่าเดิมที่ 6.0 เท่า เพื่อสะท้อนถึงกระแสเงินสดไหลออกเพิ่มขึ้นในช่วงปี 68-71 เนื่องจากต้นทุนการลงทุนในโครงการ CFP เพิ่มขึ้น 1,776 ล้านดอลลาร์ฯ บวกค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 505 ล้านดอลลาร์ฯ ในช่วงของการก่อสร้าง
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (24 ธ.ค. 67)
Tags: TOP, หุ้นไทย, ไทยออยล์