มท.4 เล็งผลักดันเส้นทางเดินเรือโรโร่ สตูล-เปอร์ลิส หนุนท่องเที่ยวชายแดน

น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย (มท.4) เดินทางลงพื้นที่จังหวัดสตูลเพื่อประชุมร่วมกับนายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เกี่ยวกับการส่งเสริมการท่องเที่ยวชายแดน โดยการพัฒนาเส้นทางเดินเรือโรโร่เชื่อมระหว่างจังหวัดสตูลกับรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย

“จังหวัดสตูลมีศักยภาพในการรองรับนักท่องเที่ยวจากประเทศมาเลเซีย ด้วยจุดเด่นด้านธรรมชาติ อาหารพื้นถิ่น และวัฒนธรรมท้องถิ่น การพัฒนาเส้นทางเดินเรือโรโร่จะช่วยเพิ่มความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยว รวมถึงช่วยลดความแออัดจากท่าเรืออื่น ๆ โครงการนี้จะเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญในการเพิ่มจำนวนนักท่องเที่ยวและสร้างรายได้เข้าสู่จังหวัด โดยรัฐบาลมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนการศึกษาความเป็นไปได้และเตรียมโครงสร้างพื้นฐานให้เหมาะสม รวมถึงสร้างความร่วมมือกับภาคเอกชนเพื่อผลักดันให้โครงการนี้เป็นรูปธรรมในอนาคตอันใกล้” น.ส.ธีรรัตน์ กล่าว

นอกจากการหารือด้านการท่องเที่ยวแล้ว รมช.มหาดไทย ยังได้พบกับกลุ่มสตรีมุสลิมตำบลตำมะลัง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นภรรยาของชาวประมงในพื้นที่ โดยกลุ่มสตรีเหล่านี้ได้รวมตัวกันผลิตสินค้าท้องถิ่นจากวัตถุดิบที่มีในชุมชน เช่น การแปรรูปปลาตัวเล็กจากเรือประมงเป็นปลาแดดเดียวปรุงรส รวมถึงงานหัตถกรรมจากผ้าปาเต๊ะที่เหลือใช้ เช่น กระเป๋า และที่มัดผม การผลิตขนมพื้นบ้าน “ขนมผูกรัก” ซึ่งมีไส้กั้งหรือกุ้งมาจำหน่ายให้กับนักท่องเที่ยว กลุ่มสตรีมุสลิมยังได้จ้างงานผู้พิการในพื้นที่ร่วมผลิตสินค้า OTOP ที่ขึ้นชื่อและโด่งดังของจังหวัดสตูล อาทิ กะปิกุ้งแท้ และกุ้งแห้ง เพื่อกระจายรายได้อย่างทั่วถึง โดยทางกลุ่มขอรับการสนับสนุนจากภาครัฐในด้านการฝึกอบรมเพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับผลิตภัณฑ์ และการช่วยหาช่องทางจำหน่ายที่กว้างขวางขึ้น

รมช.มหาดไทย กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมสนับสนุนข้อเรียกร้องของกลุ่มสตรี โดยมุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพัฒนาสินค้าชุมชนผ่านการฝึกอบรมและเพิ่มโอกาสทางการตลาด เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้ที่มั่นคงและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ จังหวัดสตูลถือเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงด้วยสถานที่สำคัญ เช่น เกาะหลีเป๊ะ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา และถ้ำเลสเตโกดอน การส่งเสริมการท่องเที่ยวควบคู่ไปกับการพัฒนาสินค้าชุมชนจึงถือเป็นแนวทางสำคัญในการผลักดันเศรษฐกิจท้องถิ่นให้เติบโตอย่างยั่งยืน

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (22 ธ.ค. 67)

Tags: , , ,
Back to Top