เงินบาทเปิด 34.60 อ่อนค่าต่อเนื่อง จับตาทิศทาง Flow คาดกรอบวันนี้ 34.45 – 34.70

นักบริหารเงินจากธนาคารกรุงศรีอยุธยา เปิดเผยว่า เงินบาทเปิดตลาดเช้านี้อยู่ที่ 34.60 บาท/ดอลลาร์ ปรับตัวอ่อนค่าต่อ เนื่องจากปิดตลาดเย็นวานนี้ที่ระดับ 34.56 บาท/ดอลลาร์ เคลื่อนไหวตามทิศทางตลาดโลก เนื่องจากดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่าตามบอนด์ยีลด์ ที่ปรับตัวสูงขึ้นหลังตลาดกังวลเรื่องธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยในปีหน้าเหลือแค่ 2 ครั้ง ประกอบกับตัวเลขเศรษฐกิจ ของสหรัฐฯ ที่ออกมาเมื่อคืนนี้ดีกว่าคาด ทั้งจีดีพีไตรมาส 3 และยอดขอรับสวัสดิการว่างงานประจำสัปดาห์

ส่วนปัจจัยในประเทศต้องรอดูทิศทางของเงินทุนต่างประเทศ (Flow) หลังจากเมื่อวานนักลงทุนต่างชาติเข้ามาซื้อพันธบัตร ระยะยาวสูงถึง 1.2 หมื่นล้านบาท ขณะที่ราคาทองในตลาดโลกเมื่อคืนปรับตัวลดลงกว่า 45 ดอลลาร์/ออนซ์

“บาทปรับตัวอ่อนค่าต่อเนื่องจากเย็นวานนี้ เคลื่อนไหวในทิศทางเดียวกับค่าเงินในภูมิภาคหลังดอลลาร์ปรับตัวแข็งค่า วันนี้ต้อง รอดู Flow” นักบริหารเงิน กล่าว

นักบริหารเงิน ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทในวันนี้ไว้ที่ 34.45 – 34.70 บาท/ดอลลาร์

ปัจจัยสำคัญ

  • เงินเยน อยู่ที่ระดับ 157.80 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 156.94 เยน/ดอลลาร์
  • เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.364 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานนี้ที่ระดับ 1.0416 ดอลลาร์/ยูโร
  • อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 34.606 บาท/ดอลลาร์
  • รมว.คลัง กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มการขยายตัวได้ต่อเนื่อง โดยมีโอกาสที่เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 4 ปีนี้มีแนว โน้มว่าจะขยายตัวได้ 4% ทำให้เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะขยายตัวได้ประมาณ 2.7-2.8% ซึ่งการขยายตัวเศรษฐกิจในระดับนี้ถือว่าดีขึ้นจาก เดิมที่เคยขยายตัวได้ต่ำแค่ 1.9% เท่านั้น
  • คลังเตรียมเสนอมาตรการ Easy e-Receipt ให้ ครม.อนุมัติสัปดาห์หน้า เผยลดหย่อนภาษีค่าซื้อสินค้าบริการได้สูงสุด 50,000 บาท เริ่มใช้ ม.ค.68
  • รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า กระทรวงได้เตรียมแพคเกจมอบเป็นของขวัญปีใหม่ 2568 ในหลายมิติที่เกี่ยวข้อง แบ่ง เป็นกรมการท่องเที่ยว จัดโครงการเที่ยวชุมชนช่วงปีใหม่ได้ส่วนลด โดยคัดโฮมสเตย์และชุมชนท่องเที่ยวที่ได้มาตรฐานกว่า 17 โฮมสเตย์ 19 การท่องเที่ยวโดยชุมชน CBT 4 ชุมชนท่องเที่ยวที่มีมัคคุเทศก์ท้องถิ่น พร้อมใจให้ส่วนลดถึงสิ้นเดือนมกราคม 2568 ซึ่งนักท่องเที่ยวจะ ได้รับส่วนลดที่พัก อาหาร สินค้าและบริการจากโฮมสเตย์และชุมชน
  • รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า บริษัท วิทยุการบินแห่งประเทศไทย จำกัด (บวท.) คาดการณ์ปริมาณเที่ยวบิน ในช่วงระหว่าง วันที่ 27 ธันวา คม 2567-2 มกราคม 2568 รวม 7 วัน ระบุว่า จะมีเที่ยวบินรวม 18,280 เที่ยวบิน เฉลี่ย 2,611 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มขึ้น 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในปี 2568 อุตสาหกรรมการบินในประเทศจะฟื้นตัวอย่างชัดเจน ซึ่งคาดจะมีเที่ยวบินทั่ว ประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 1 ล้านเที่ยวบิน จากปี 2567 ที่ให้บริการเที่ยวบินรวม 981,270 เที่ยวบิน
  • กรมการค้าต่างประเทศแนะใช้สิทธิ FTA กระจายความเสี่ยงการส่งออก ลดผลกระทบนโยบายทรัมป์ 2.0 ด้าน กนอ. ลั่น เกาหลีจ่อขยายลงทุน 500 ล้านเหรียญสหรัฐ ปักหมุด Smart Park
  • คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติด้วยคะแนนเสียง 6-3 ในการคงอัตรา ดอกเบี้ยที่ระดับ 4.75% ในการประชุมเมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.) สอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ โดย BoE ประกาศคงอัตรา ดอกเบี้ย หลังเงินเฟ้อของอังกฤษพุ่งสูงสุดในรอบ 8 เดือน และตัวเลขค่าจ้างดีดตัวขึ้นมากกว่าคาด
  • กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 3 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตร มาส 3/2567 เมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.) โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ขยายตัว 3.1% ในไตรมาสดังกล่าว โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 2.8% ของตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 และ 2 หลังจากมีการขยายตัว 3.0% ในไตรมาส 2/2567 และ 1.4% ในไตรมาส 1/2567
  • กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรก ลดลง 22,000 ราย สู่ระดับ 220,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว และต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 229,000 ราย
  • ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพฤหัสบดี (19 ธ. ค.) หลังสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและแรงงานที่แข็งแกร่ง ซึ่งอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ชะลอการปรับ ลดอัตราดอกเบี้ย
  • สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (19 ธ.ค.) หลังธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการ ปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า นอกจากนี้ ข้อมูลล่าสุดยังบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่ง และอาจเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดชะลอ การปรับลดอัตราดอกเบี้ย
  • นักลงทุนจับตาการเปิดเผยดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ของสหรัฐฯ ในวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE จะปรับตัวขึ้น 2.5% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.3% ในเดือนต.ค. และคาดว่าดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน จะเพิ่มขึ้น 2.9% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี หลังจากที่เพิ่มขึ้น 2.8% ในเดือนต.ค.

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (20 ธ.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top