เงินบาทเปิด 34.58 อ่อนค่ารับบอนด์ยีลด์หนุนดอลลาร์แข็งค่า หลังคาดเฟดชะลอลดดบ.ปีหน้า

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงิน บาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.58 บาท/ดอลลาร์ อ่อนค่าลงหนักจากปิดตลาดวานนี้ ซึ่งอยู่ที่ระดับ 34.21 บาท/ดอลลาร์

โดยตั้งแต่คืนที่ผ่านมา เงินบาทอ่อนค่าลงต่อเนื่อง หลังการปรับตัวขึ้นของทั้งเงินดอลลาร์ และบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐฯ ภาย หลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดินหน้าลดดอกเบี้ย 25bps สู่ระดับ 4.25-4.50% อย่างไรก็ดี เฟดได้ปรับคาดการณ์เศรษฐกิจดีขึ้น พร้อมทั้งปรับลดคาดการณ์แนวโน้มการลดดอกเบี้ยในปี 68 ลง จากเดิมที่เคยคาดว่าจะลดดอกเบี้ย 4 ครั้ง เหลือเพียง 2 ครั้ง

“ถ้อยแถลงของประธานเฟด ทำให้ตลาดต่างกังวลว่า เฟดอาจลดดอกเบี้ยได้น้อยกว่าที่ระบุไว้ หากคำนึงถึงผลกระทบจากการ ดำเนินนโยบายต่างๆ ของรัฐบาล Trump 2.0 ที่อาจเกิดขึ้น” นายพูน ระบุ

นอกจากนี้ เงินบาทยังเผชิญแรงกดดันเพิ่มเติม จากการปรับตัวลงหนักกว่า -2.3% ของราคาทองคำ

วันนี้ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่ผลการประชุมของ 2 ธนาคารกลางหลัก คือ ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ซึ่งคาดว่า BOJ อาจคง ดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 0.25% รวมทั้งรอลุ้นผลการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ที่ประเมินว่า BOE อาจคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ ระดับ 4.75% หลังอัตราเงินเฟ้ออังกฤษเริ่มชะลอตัวลงช้า ส่วนในฝั่งสหรัฐฯ ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินภาวะตลาดแรงงานสหรัฐฯ ผ่าน รายงานยอดผู้ขอรับสวัสดิการการว่างงาน

สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท มีโอกาสพลิกกลับมาทยอยอ่อนค่าลงได้ หรืออย่างน้อยอาจแกว่งในกรอบ Sideways ซึ่งจะส่ง ผลให้เงินบาทมีโอกาสจบสิ้นปีนี้ ในระดับที่อ่อนค่ากว่าที่เราประเมินไว้ (33.50-34.00 บาท/ดอลลาร์) ได้พอสมควร

นายพูน คาดกรอบเงินบาท จะอยู่ที่ระดับ 34.35-34.75 บาท/ดอลลาร์

 

ปัจจัยสำคัญ

– เงินเยน อยู่ที่ระดับ 154.78 เยน/ดอลลาร์ จากเย็นวานที่ระดับ 153.60/80 เยน/ดอลลาร์

– เงินยูโร อยู่ที่ระดับ 1.0378 ดอลลาร์/ยูโร จากเย็นวานที่ระดับ 1.0480/0500 ดอลลาร์/ยูโร

– อัตราแลกเปลี่ยนเงินบาท/ดอลลาร์ ถัวเฉลี่ยถ่วงน้ำหนักระหว่างธนาคารของธปท. อยู่ที่ระดับ 34.240 บาท/ดอลลาร์

– ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (สบน.) เปิดเผยว่า สบน.ประสบความสำเร็จในการจัดหาเงินกู้ในรูปแบบ สัญญากู้ยืมเงิน เพื่อความยั่งยืนวงเงิน 17,700 ล้านบาท โดยเป็นการกู้เงินเพื่อให้กู้ต่อแก่การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) สำหรับดำเนินโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (รถไฟฟ้าสายสีม่วงฯ)

– คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของเฟดมีมติปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นลง 0.25% สู่ระดับ 4.25- 4.50% ตามคาด แต่ในรายงาน Dot Plot นั้น เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2568 ลงเพียง 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.50% จากเดิมที่ส่งสัญญาณในเดือนก.ย.ว่าจะปรับลดดอกเบี้ย 4 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 1.00% ในปี 2568

– อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี พุ่งขึ้นแตะระดับ 4.51% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 31 พ.ค. หลังจากเฟดออกแถลงการณ์ดังกล่าว

– ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) กล่าวว่า เฟดไม่ได้รับอนุญาตให้ถือครองบิตคอยน์ และเฟดจะไม่พยายามผลักดันให้มี การแก้ไขกฎหมายเพื่อให้สามารถถือครองบิตคอยน์ได้

– ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (18 ธ.ค.) หลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

– สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันพุธ (18 ธ.ค.) ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันวันที่ 5 ขณะที่นักลงทุนรอผลการ ประชุมของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม

– ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตร มาส 3/2567, ดัชนีการผลิตเดือนธ.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, ยอดขายบ้านมือสองเดือนพ.ย. และดัชนีชี้นำเศรษฐกิจเดือนพ.ย.จาก Conference Board

– นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันนี้ โดยคาดว่าที่ประชุมจะคงอัตรา ดอกเบี้ยที่ระดับ 0.25% และธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) แถลงมติอัตราดอกเบี้ย

 

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (19 ธ.ค. 67)

Tags: ,
Back to Top