ตัวเลขอย่างเป็นทางการที่เปิดเผยในวันนี้ (17 ธ.ค.) ชี้ว่า ค่าแรงในสหราชอาณาจักร (UK) พุ่งสูงเกินคาด ในรอบไตรมาสสิ้นสุดเดือนต.ค. ส่งผลให้นักลงทุนชะลอการคาดการณ์ว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) จะลดดอกเบี้ยในปีหน้า แม้เศรษฐกิจจะส่งสัญญาณชะลอตัวก็ตาม
สำนักงานสถิติแห่งชาติ (ONS) รายงานว่า รายได้รายสัปดาห์โดยเฉลี่ย (ไม่รวมโบนัส) ในช่วงสามเดือนถึงสิ้นต.ค. เพิ่มขึ้น 5.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน สูงกว่าที่นักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 5.0%
สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หลังการเปิดเผยตัวเลขดังกล่าว ค่าเงินปอนด์พุ่งขึ้นทันทีราว 1 ใน 3 เซนต์เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ
นักลงทุนปรับลดการคาดการณ์เรื่องดอกเบี้ย BoE โดยเชื่อว่าจะมีการปรับลดดอกเบี้ยลงเพียงสองครั้ง ครั้งละ 0.25% ไปจนถึงสิ้นปี 2568
เป็นที่คาดว่า BoE จะยังคงดอกเบี้ยไว้ตามเดิมในการประชุมวันพฤหัสบดีนี้ (19 ธ.ค.) โดยรอดูผลกระทบจากงบประมาณที่รัฐมนตรีคลัง ราเชล รีฟส์ ประกาศเมื่อ 30 ต.ค. รวมถึงต้นทุนที่เพิ่มขึ้นของนายจ้างที่จะมีต่อตลาดแรงงาน
ในส่วนของภาคเอกชน ซึ่งเป็นที่จับตาของ BoE รายได้ไม่รวมโบนัสปรับตัวเพิ่มขึ้น 5.4% ในช่วงส.ค.-ต.ค. นับเป็นการเติบโตที่สูงที่สุดนับจากไตรมาสสิ้นสุดเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา ตามรายงานของ ONS
ข้อมูลเบื้องต้นจากสรรพากรอังกฤษชี้ว่า นายจ้างปลดพนักงานออกจากระบบการจ่ายเงินเดือนถึง 35,000 คนในเดือนพ.ย.
ทั้งนี้ ตำแหน่งงานว่างในช่วงสามเดือนถึงพ.ย.ก็ลดลง 31,000 ตำแหน่ง เหลือ 818,000 ตำแหน่งเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อน แต่ยังคงสูงกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ในช่วงม.ค.-มี.ค.ของปี 2563 อยู่ 22,000 ตำแหน่ง
ข้อมูลอีกชุดหนึ่งชี้ว่า อัตราการว่างงานทรงตัวอยู่ที่ 4.3% ในไตรมาสสิ้นสุดเดือนต.ค.
อย่างไรก็ตาม การสำรวจที่ใช้คำนวณอัตราการว่างงานนั้น กำลังอยู่ในช่วงปรับเปลี่ยนครั้งใหญ่ เนื่องจากอัตราการตอบกลับแบบสอบถามต่ำเกินกว่าจะใช้เป็นดัชนีชี้วัดตลาดแรงงานได้อย่างน่าเชื่อถือ
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (17 ธ.ค. 67)
Tags: BoE, ค่าแรง, ธนาคารกลางอังกฤษ, สหราชอาณาจักร