นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ กับศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) โดยเฉพาะเหตุการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดชุมพร นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี และระนอง โดยนายกรัฐมนตรี รับทราบรายงานการปฎิบัติอย่างทันท่วงทีในการเข้าช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ในขณะที่เจ้าหน้าที่ส่วนหน้าได้เสริมกำลังในหน่วยปฏิบัติงาน และอุปกรณ์ช่วยเหลือเพิ่มเติมได้ทันตามแผนที่ ศปช.ได้วางเอาไว้
โดยเฉพาะจังหวัดระนองที่มีน้ำป่าไหลหลาก ศปช. รายงานว่าได้เร่งอพยพประชาชนมาในพื้นที่ปลอดภัย แล้วและได้จัดชุดอุปโภคบริโภค ยารักษาโรค รวมถึงอุปกรณ์สำหรับดูแลผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก และคนต้องการความดูแลเป็นพิเศษ
“ศปช.ส่วนหน้า ขอให้ประชาชนในพื้นที่ติดตามการแจ้งเตือนภัย คำสั่งอพยพ และปฏิบัติตามประกาศของทางการ รวมทั้งติดตามข่าวสาร และคำเตือนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่ โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับฝ่ายบริหาร ที่อำนวยการในการแก้ไขสถานการณ์อุทกภัย โดยเน้นย้ำให้เจ้าหน้าที่เข้าไปปฏิบัติหน้าที่ดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบทุกพื้นที่ ขอให้สวมอุปกรณ์ป้องกัน เช่น เสื้อชูชีพ และเตรียมอุปกรณ์ตรวจสอบกระแสไฟรั่ว เพื่อช่วยตรวจสอบให้กับประชาชน และการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยให้มีความปลอดภัย พร้อมทั้งประเมินสุขภาพก่อนปฏิบัติหน้าที่ เพื่อให้สามารถช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ” นายจิรายุ กล่าว
ขณะที่ ศปช.ส่วนหน้า ได้จัดทีมปฏิบัติการจากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เขต 11 สุราษฎร์ธานี นำกำลังพร้อมอุปกรณ์ เครื่องจักรกลสาธารณภัยกระจายความช่วยเหลือลงพื้นที่ พร้อมติดตั้งเครื่องสูบน้ำผลักดันน้ำออกจากพื้นที่ และแจกจ่ายอาหารให้กับประชาชน แจ้งทางเลี่ยงการสัญจร แจ้งเตือน SMS ผ่านเครือข่ายมือถือ และให้ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตข้างเคียงที่ไม่มีสถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ เตรียมความพร้อมให้สนับสนุนการปฏิบัติงาน ตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ และเครื่องจักรกลสาธารณภัยให้ประจำการในพื้นที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนอย่างต่อเนื่อง
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า ล่าสุด ศปช. ได้รายงานต่อนายกรัฐมนตรีว่า ยังมีพื้นที่ที่ยังต้องเฝ้าระวังเสี่ยงน้ำท่วมจนถึงวันที่ 20 ธ.ค.นี้ ได้แก่ จ.ชุมพร ระนอง สุราษฎร์ธานี ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (15 ธ.ค. 67)
