ผลสำรวจที่เปิดเผยในวันนี้ (13 ธ.ค.) ระบุว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคในสหราชอาณาจักร (UK) แตะระดับสูงสุดในรอบ 4 เดือนในเดือนธ.ค. เนื่องจากครัวเรือนมีมุมมองที่สดใสขึ้นต่อสถานะทางการเงินของตนเอง นับเป็นสัญญาณบวกสำหรับราเชล รีฟส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หลังจากตัวชี้วัดอื่น ๆ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่ร่วงลงหลังการประกาศงบประมาณ
ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจากบริษัทวิจัยตลาด GfK ปรับตัวขึ้นสู่ระดับ -17 ในเดือนธ.ค. จากระดับ -18 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนส.ค. ขณะที่ผลโพลของสำนักข่าวรอยเตอร์ที่สำรวจความคิดเห็นนักเศรษฐศาสตร์คาดการณ์ว่าตัวเลขจะทรงตัว
ดัชนีย่อยที่วัดความเชื่อมั่นทางการเงินทั้งในอดีตและอนาคตของ GfK ก็ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 4 เดือนเช่นกัน ส่วนองค์ประกอบอื่น ๆ อย่าง ความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจ และความตั้งใจในการซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ ยังคงทรงตัว
โดยภาพรวมแล้ว ตัวเลขชุดนี้สะท้อนว่าผู้บริโภคยังมองอนาคตในแง่ดี ซึ่งสวนทางกับความเชื่อมั่นภาคธุรกิจที่หดตัวลงอย่างหนัก หลังรีฟส์ประกาศมาตรการขึ้นภาษีนายจ้างครั้งใหญ่ในการประกาศงบประมาณเมื่อวันที่ 30 ต.ค.
ด้านผลสำรวจอีกชุดจาก YouGov/Cebr ที่เปิดเผยเมื่อวันพุธ (11 ธ.ค.) ชี้ว่า ความเชื่อมั่นผู้บริโภคกระเตื้องขึ้นเล็กน้อยในเดือนธ.ค. แม้ว่าคนจะรู้สึกไม่มั่นคงในงานมากขึ้นก็ตาม
นีล เบลลามี ผู้อำนวยการฝ่ายข้อมูลเชิงลึกผู้บริโภคของ NIQ GfK ระบุว่า ผู้บริโภคยังคงลังเลที่จะซื้อสินค้าชิ้นใหญ่ราคาแพง และชี้ให้เห็นว่าความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาพรวมเศรษฐกิจยังค่อนข้างอ่อนแอ เมื่อเทียบกับความมั่นใจในฐานะการเงินของตนเอง
“เราต้องรอให้มุมมองต่อเศรษฐกิจดีขึ้นอย่างชัดเจนเสียก่อน จึงจะบอกได้ว่าความรู้สึกของผู้บริโภคปรับตัวดีขึ้นอย่างยั่งยืน” เบลลามีกล่าว
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า มาตรการด้านงบประมาณของรีฟส์จะช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของ UK ในปีหน้าได้ชั่วคราว แม้ว่าข้อมูลล่าสุด เช่น ยอดค้าปลีก จะออกมาน่าผิดหวังก็ตาม
สำหรับข้อมูลผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำเดือนต.ค. จะมีการประกาศในเวลา 14.00 น. ตามเวลาไทย
ทั้งนี้ GfK ทำการสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 2,015 คน ระหว่างวันที่ 28 พ.ย. ถึง 9 ธ.ค.
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (13 ธ.ค. 67)
Tags: UK, ความเชื่อมั่นผู้บริโภค, สหราชอาณาจักร