ผลสำรวจของสำนักข่าวรอยเตอร์เผยให้เห็นว่า บริษัทญี่ปุ่นเกือบ 3 ใน 4 คาดว่าการกลับมาดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของโดนัลด์ ทรัมป์ จะส่งผลเสียต่อสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ โดยระบุถึงความกังวลเรื่องแผนขึ้นภาษีนำเข้าและความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน
ทรัมป์ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค. ขู่ว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนในอัตรากว่า 60% โดยนักเศรษฐศาสตร์ที่รอยเตอร์สำรวจความคิดเห็นคาดการณ์ไว้ว่า การเรียกเก็บภาษีนำเข้ารอบแรกอาจเริ่มต้นขึ้นตั้งแต่ต้นปีหน้า ที่อัตราเฉลี่ย 38% และอาจอยู่ในช่วง 15-60%
นอกจากนี้ ทรัมป์ยังขู่จะเก็บภาษี 25% สำหรับสินค้าทุกประเภทที่นำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโก ซึ่งเป็นฐานการผลิตของบริษัทรถยนต์ญี่ปุ่นหลายแห่ง
อย่างไรก็ดี ในขณะที่บริษัทญี่ปุ่น 73% มองว่าการกลับมาของทรัมป์จะไม่เป็นผลดีต่อธุรกิจ แต่บริษัทที่เหลือมองว่าเป็นผลดี โดยคาดว่าจะมีการขยายตัวของอุปสงค์ภายในสหรัฐฯ จากการลดภาษี รวมถึงการปรับเปลี่ยนนโยบายด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม
เมื่อถูกถามถึงมาตรการรับมือหากทรัมป์ปรับขึ้นภาษี บริษัทญี่ปุ่น 2 ใน 3 ตอบว่าจะไม่เปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ทางธุรกิจ ขณะที่ 22% จะลดต้นทุน และ 8% จะขยายธุรกิจไปยังตลาดอื่นนอกสหรัฐฯ
ทั้งนี้ นิกเกอิ รีเสิร์ช ได้จัดทำผลสำรวจดังกล่าวให้กับรอยเตอร์ โดยสำรวจบริษัท 505 แห่งระหว่างวันที่ 27 พ.ย. – 6 ธ.ค. 2567 และมีบริษัท 236 แห่งตอบแบบสอบถามนี้
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (12 ธ.ค. 67)
Tags: การค้า, ญี่ปุ่น, ภาษีนำเข้า, สหรัฐ, โดนัลด์ ทรัมป์