น.ส.ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 12-16 ธ.ค. 67 มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับหย่อมความกดอากาศต่ำเคลื่อนผ่านอ่าวไทยและภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนหนักถึงหนักมาก ดังนี้
-
วันที่ 12 ธ.ค. 67 ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส
-
วันที่ 13-14 ธ.ค. 67 ได้แก่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส ระนอง และพังงา
-
วันที่ 15-16 ธ.ค. 67 ได้แก่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส กระบี่ ตรัง สตูล ระนอง พังงา ภูเก็ต และกระบี่
“ที่ประชุมศปช. ได้สั่งการให้กรมชลประทาน เร่งกำจัดวัชพืชสิ่งกีดขวางทางน้ำ เพื่อเตรียมรับมือกับฝนที่อาจจะตกหนักอีกระลอกในพื้นที่ภาคใต้แล้ว” น.ส.ศศิกานต์ กล่าว
อย่างไรก็ตาม ระหว่างวันที่ 11-13 ธ.ค. 67 ยังต้องเฝ้าระวังดินถล่มในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี อ.พุนพิน และ จ.ปัตตานี อ.ปะนาเระ อ.มายอ อ.สายบุรี
น.ส.ศศิกานต์ กล่าวว่า ล่าสุดเหลือพื้นที่ประสบอุทกภัยเพียง 1 จังหวัด ได้แก่ จ.นครศรีธรรมราช โดยเจ้าหน้าที่ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเครื่องผลักดันน้ำเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชน
สำหรับพื้นที่ที่สถานการณ์คลี่คลายแล้ว กระทรวงแรงงาน ได้ระดมทีมช่างจากกรมพัฒนาฝีมือแรงงานเข้าไปช่วยซ่อมแซมอุปกรณ์ บ้านเรือน รถจักรยานยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ รวมถึงขอรับการสนับสนุนงบประมาณโครงการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนด้านอาชีพ เพื่อจ้างงานประชาชนหลังน้ำลดให้สามารถกลับมาประกอบอาชีพได้โดยเร็ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ธ.ค. 67)
Tags: น้ำท่วมภาคใต้, ฝนตก, ศปช., ศศิกานต์ วัฒนะจันทร์