ประธานหอการค้าเผย รัฐบาลใหม่ซีเรียหนุนปฏิรูปศก.สู่ระบบตลาดเสรี

ประธานกลุ่มธุรกิจรายใหญ่ที่สุดของซีเรียเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (10 ธ.ค.) ว่า รัฐบาลชุดใหม่แจ้งต่อผู้นำภาคธุรกิจว่าจะปรับใช้ระบบตลาดเสรีและผนวกประเทศเข้ากับเศรษฐกิจโลก นับเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากยุคที่รัฐผูกขาดและฉ้อฉลมานานหลายทศวรรษ

“นี่จะเป็นระบบตลาดเสรีที่ขับเคลื่อนด้วยการแข่งขัน” บาสเซล ฮัมวี ประธานหอการค้าดามัสกัสกล่าวในการให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ หลังจากกองกำลังกบฏโค่นล้มประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด ได้ 3 วัน จบสิ้นการปกครองแบบเผด็จการของตระกูลอัสซาดที่ยาวนาน 54 ปี

บรรดานักธุรกิจชาวซีเรียที่มีชื่อเสียงต่างยินดีกับสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจจะเปิดรับการลงทุนเพื่อฟื้นฟูประเทศจากความเสียหายอันเกิดจากสงครามกลางเมือง 13 ปี พวกเขาเฝ้าติดตามเช่นเดียวกับคนส่วนใหญ่ในประเทศว่ารัฐบาลใหม่ที่นำโดยกลุ่มที่มีรากฐานจากอิสลามนิยม (Islamist) จะบริหารประเทศไปในทิศทางใด

อย่างไรก็ตาม นักธุรกิจกลุ่มนี้ยังต้องการเห็นว่า ฮายัต ทาห์รีร์ อัล-ชาม (HTS) อดีตกลุ่มที่แยกตัวออกมาจากอัลกออิดะห์ที่ภายหลังได้ตัดขาดความสัมพันธ์และนำฝ่ายกบฏบุกโจมตีรัฐบาลอัสซาดนั้น จะทำได้ตามที่พูดหรือไม่

“ผู้คนยังคงลุ้นว่าจะเป็นสังคมเสรีหรือรัฐอิสลาม” นักธุรกิจชาวซีเรียในเบรุตรายหนึ่งกล่าว

ฮัมวีให้สัมภาษณ์หลังจากเข้าพบคณะผู้แทนรัฐบาลที่นำโดยบาสเซล อับดุล อาซิซ รักษาการรัฐมนตรีเศรษฐกิจของซีเรีย เมื่อวันก่อน

ทั้งนี้ ซีเรียใช้ระบบควบคุมการนำเข้า-ส่งออกที่เข้มงวดมาช้านานด้วยกลไกที่ยุ่งยากซับซ้อน โดยผู้ค้าต้องขออนุญาตนำเข้าสินค้า และนำเงินปอนด์ซีเรียไปฝากไว้ที่ธนาคารกลางเพื่อแลกเป็นดอลลาร์สหรัฐ กว่าเงินจะมาถึงมือก็ผ่านไปหลายวันหรือเป็นสัปดาห์ ทำให้ทุกอย่างล่าช้า จนสินค้าจำเป็นขั้นพื้นฐานขาดตลาด

ฮัมวีเผยว่า อาเดลาซิซแจ้งเขาว่าจะยกเลิกระบบศุลกากรที่เข้มงวด ตามข้อเรียกร้องของผู้ค้าและภาคอุตสาหกรรม

“ใครก็ตามที่ขึ้นทะเบียนกับหอการค้า จะสามารถนำเข้าสินค้าที่ต้องการได้ ภายใต้กฎเกณฑ์ที่กำหนด” ฮัมวีกล่าว

รอยเตอร์สัมภาษณ์นักธุรกิจซีเรียชั้นนำ 4 ราย ต่างเห็นว่าสัญญาณจากรัฐบาลใหม่นี้น่าจะเป็นความหวัง และแตกต่างลิบลับจากระบบเดิมที่ถูกผูกขาดโดยนักธุรกิจกลุ่มเล็ก ๆ ที่สวามิภักดิ์ต่อตระกูลอัสซาด

นักเศรษฐศาสตร์มองว่า การทำให้เศรษฐกิจมั่นคงและเปิดกว้างเป็นกุญแจสำคัญที่จะดึงดูดการลงทุนใหม่ที่ขาดแคลนอย่างหนัก รวมถึงการกลับบ้านของชาวซีเรียนับล้านคน โดยเฉพาะชนชั้นกลางผู้มีการศึกษาที่ลี้ภัยสงครามไป

“ซีเรียมีพลเมืองพลัดถิ่นจำนวนมากที่มีการศึกษาและฐานะดี พวกเขาอยากกลับมาสร้างประเทศ ถ้าเป็นอย่างนั้นเศรษฐกิจอาจโตในระดับเลขสองหลักได้หลายปี” เจ้าหน้าที่การเงินอาวุโสในภูมิภาครายหนึ่งกล่าว

ฮัมวีเล่าว่า นักธุรกิจชาวซีเรียในต่างแดนโทรมาถามไม่ขาดสายว่ารัฐบาลชุดใหม่จะมีนโยบายการค้าอย่างไร โดยฮัมวีพยายามชักชวนให้พวกเขากลับประเทศ พร้อมชี้ให้เห็นโอกาสการลงทุนมหาศาลทั้งในด้านการฟื้นฟูประเทศ อุตสาหกรรม และภาคบริการ

“พวกเขาจะเป็นกำลังสำคัญที่สุดในการพัฒนาซีเรีย” ฮัมวีกล่าว

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ธ.ค. 67)

Tags:
Back to Top