นักวิเคราะห์ฯ ระบุตลาดหุ้นไทยเช้านี้คาดดัชนีแกว่งไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ขาดปัจจัยบวกใหม่ นักลงทุนรอติดตามการเปิดเผยตัวเลขเงินเฟ้อของสหรัฐคืนนี้เพื่อประเมินทิศทางดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมสัปดาห์หน้า ขณะที่ในประเทศติดตามการแถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รวมทั้งการแถลงมาตรการแก้หนี้ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง โดยให้กรอบแนวรับ 1,440 จุด และแนวต้าน 1,455 จุด
นายวีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน (บลป.) เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด กล่าวว่าแนวโน้มตลาดหุ้นไซด์เวย์ถึงไซด์เวย์ดาวน์ ตลาดยังขาดปัจจัยบวกใหม่ โดยนักลงทุนรอติดตามรายงานดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ของสหรัฐฯ ประจำเดือนพ.ย. ในคืนนี้ ส่งผลให้ภาพรวมตลาด wait & see ไปก่อน
ทั้งนี้ตลาดคาดการณ์ดัชนี CPI ทั่วไป (Headline CPI) คาดเพิ่มขึ้น 0.3% MoM และ 2.7% YoY ขณะที่ดัชนี CPI พื้นฐาน (Core CPI) คาด 0.3% MoM และ 3.3% YoY ซึ่งคาดการเปิดเผยตัวเลขคืนนี้ออกมาตามคาด ตลาดอาจประเมินแนวโน้มของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อาจลดดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมสัปดาห์หน้า
ขณะที่ปัจจัยในประเทศวันนี้ติดตามผลการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) และการแถลงข่าวร่วมกันระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และกระทรวงการคลัง ในประเด็นมาตรการแก้หนี้ โครงการ “คุณสู้ เราช่วย”
โดยให้กรอบแนวรับ 1,440 จุด และแนวต้าน 1,455 จุด
ประเด็นพิจารณาการลงทุน
– ตลาดหุ้นนิวยอร์ก (10 ธ.ค.) ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 44,247.83 จุด ลดลง 154.10 จุด หรือ -0.35%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,034.91 จุด ลดลง 17.94 จุด หรือ -0.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 19,687.24 จุด ลดลง 49.45 จุด หรือ -0.25%
– ตลาดหุ้นเอเชียเปิดตลาดวันนี้ ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดที่ระดับ 39,357.77 จุด ลดลง 9.81 จุด หรือ -0.02% ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ 20,404.50 จุด เพิ่มขึ้น 93.22 จุด หรือ +0.46% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ 3,416.09 จุด ลดลง 6.57 จุด หรือ -0.19%
– ตลาดหุ้นไทยปิดล่าสุด (9 ธ.ค.) ที่ 1,447.53 จุด ลดลง 4.43 จุด (-0.31%) มูลค่าซื้อขาย 35,890.72 ล้านบาท
– นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,752.95 ล้านบาท (9 ธ.ค.)
– ราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. (10 ธ.ค.) เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ หรือ 0.32% ปิดที่ 68.59 ดอลลาร์/บาร์เรล
– ค่าการกลั่นอ้างอิงตลาดสิงคโปร์ปิดล่าสุด (10 ธ.ค.) อยู่ที่ 6.65 เหรียญ/บาร์เรล
– เงินบาทเปิด 33.70 แข็งค่านำภูมิภาค รับเม็ดเงินไหลเข้าตลาดพันธบัตร
– รัฐมนตรีคลัง-แบงก์ชาติ ร่วมกับสมาคมธนาคารไทย สมาคมสถาบันการเงินของรัฐ แถลงมาตรการแก้หนี้วันนี้ (11 ธ.ค.) โครงการ “คุณสู้ เราช่วย” ดึงธนาคารออมสินและธนาคารกรุงไทยเป็นแกนนำ ปรับโครงสร้างหนี้ให้กับประชาชนรายย่อยคนตัวเล็ก มูลหนี้น้อย ลดเงินต้น ลดดอกเบี้ย เดินหน้าผ่อนส่งระยะเวลาจำกัด 3-5 ปีจบหนี้ รัฐสนับสนุนเพิ่มแรงจูงใจ ใช้เงินนำส่งกองทุนกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงินเข้าชดเชยสถาบันการเงิน พร้อมต่อยอด BIG DATA ทำ “อารีย์ สกอร์” ช่วยคนตัวเล็กกู้เงินในระบบ
– คณะกรรมการร่วมภาคเอกชน (กกร.) ออกโรงยื่นหนังสือขอให้รัฐบาลพิจารณาทบทวนนโยบายขึ้นค่าแรง 400 บาททั่วประเทศ เผยมีผลกระทบต้นทุนการผลิต 5 อุตสาหกรรมหลัก อาหาร-สิ่งทอ-ยาง-อิเล็กทรอนิกส์-รถยนต์ หวั่นย้ายฐานการผลิต ห่วงผู้ประกอบการรายกลาง-เล็ก (SMEs) อาจถึงขั้นทยอยปิดกิจการ ด้านกลุ่มอุตสาหกรรมจังหวัดภาคกลางวิตกปัญหาโรงงานหนีตาย ยอมจ้างแรงงานต่างด้าวเถื่อนทะลักเข้าพื้นที่ แนะรัฐบาลการขึ้นค่าแรงต้องฟังคณะกรรมการไตรภาคี มีผลศึกษาสอดคล้องกับคณะอนุกรรมการค่าจ้างรายจังหวัด
– รมว.พาณิชย์ เดินหน้าฟื้นเศรษฐกิจ เร่งเจรจา FTA ดึงการลงทุนต่างชาติ หนุนส่งออก เข้มงวดสินค้าด้อยคุณภาพ เตรียมรับมือสงครามการค้าสหรัฐ-จีนเร่งกระจายตลาด เพิ่มความหลากหลายของแหล่งวัตถุดิบ พร้อมเดินหน้าปรับโครงสร้างส่งออกให้ทันสมัย สร้าง New S-Curve
– “คลัง” ชง ครม.เก็บภาษีคาร์บอนในสินค้าน้ำมันและผลิตภัณฑ์น้ำมันอัตรา 200 บาทต่อตันคาร์บอน คงอัตราสรรพสามิตเท่าเดิม เล็งหารือเอกชนหลังประกาศใช้ ส.อ.ท.แนะไม่ควรรีบร้อนควรหารือผู้ประกอบการให้ชัดเจนหวั่นซ้ำเติมต้นทุนช่วงเศรษฐกิจซึม เสนอรอฟังนโยบาย “ทรัมป์” หลังรับตำแหน่ง 20 ม.ค.ปีหน้า เพื่อร่วมวางทิศทางขับเคลื่อนเศรษฐกิจไปด้วยกัน
– เข้าสู่เดือนสุดท้ายของปี 2567 ผู้ประกอบการเผชิญปัจจัย “ลบ” มากกว่า “บวก” มีผลต่อการเติบโตของธุรกิจ อย่างต่อเนื่อง จากแรงกดดันของสถานการณ์ภายในประเทศทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว กำลังซื้อ เปราะบาง หนี้ครัวเรือนสูง ขณะปัจจัยภายนอก ร้อนระอุ สงครามการค้าเดือด! ส่งผลกระทบ เป็นลูกโซ่ ยังมีปมความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ ลามในหลายภูมิภาค เป็น “ระเบิดเวลา” สะเทือนเศรษฐกิจโลก โดย บรรดา นักธุรกิจ ซีอีโอ องค์กรชั้นนำ ฉายภาพรวมธุรกิจ และ “นิยามแห่งปี” หลากหลายมุมมอง
– กองทุนน้ำมันฯอัพเดตฐานะใกล้ติดลบ 8 หมื่นล้านบาท ฐานะดีขึ้น หลังเคยติดลบทะลุ 1.3 แสนล้านบาท เดินหน้าอุ้มดีเซล-แอลพีจี บริหารเงินใช้หนี้ 1 แสนล้าน ธพ.เผยเบนซิน 10 เดือนลดลง เหตุ ปชช.หันใช้อีวี-ขึ้นรถไฟฟ้า
หุ้นเด่นวันนี้
– บมจ. อินสไปร์ ไอวีเอฟ เข้าจดทะเบียนและเริ่มซื้อขายใน mai ภายใต้กลุ่มบริการ โดยใช้ชื่อย่อในการซื้อขายหลักทรัพย์ว่า “IVF” ในวันที่ 11 ธ.ค.67 โดยราคา IPO หุ้นละ 3.10 บาท คิดเป็นมูลค่าเสนอขาย 403 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO 1,364 ล้านบาท
– TIDLOR (กสิกรไทย) “ซื้อ” ราคาพื้นฐาน 23.00 บาท มองจะได้รับแรงหนุนด้านความเชื่อมั่นจากแนวโน้มการลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายของเฟด 18-19 ธ.ค.และทิศทางการลดดอกเบี้ยของธนาคารแห่งประเทศไทยปี 68 ที่อาจลดมากกว่าหนึ่งครั้ง คงมุมมองเชิงบวกคาดคุณภาพสินทรัพย์จะเริ่มปรับตัวดีขึ้นตั้งแต่ Q4/67 เป็นต้นไปหลังผู้บริหารแสดงความมั่นใจสามารถควบคุมคุณภาพสินทรัพย์และการจัดเก็บหนี้ดีขึ้นภายหลังปรับปรุงงบดุลตั้งแต่ปี 66 นอกจากนี้ มองโอกาสลดอัตราส่วนค่าใช้จ่ายต่อรายได้ได้อีกในอนาคต ขณะที่มูลค่าหุ้นยังไม่แพง โดยมี Forward PE ปี 68 ที่ประมาณ 10 เท่า
– OSP (ฟินันเซียไซรัส) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 28 บาท ส่วนแบ่งการตลาดชูกำลังเดือน ต.ค. ในเช็งมูลค่ามูลค่ากลับมาพื้นเป็น 45% จาก 44.8% ในเดือน ก.ย. โตได้ทั้งช่องทาง traditional และ modern trade ส่วนหนึ่งเพราะน้ำท่วมคลี่คลาย มูลค่าตลาดเครื่องดื่มชูกำลังในไทยเดือน ต.ค.ยังโตต่อ +4% m-m, +12% y-y โดย OSP แย่งส่วนแบ่งกลับมาได้เล็กน้อย กลยุทธ์เน้นออกสินค้าใหม่และสร้างตลาดด้วยสินค้าราคาสูงกว่า 10-12 บาท ส่วน 10 บาทยังมีขายเป็นทางเลือกให้ลูกค้าและรองรับการแข่งขัน มองผ่านจุดต่ำสุดใน Q3/67 ไปแล้ว คาดกำไร Q4/67 จะกลับมาโต q-q และ y-y คาดกำไรปี 68 จะกลับมาโตแรง +74% y-y
– AU (คิงส์ฟอร์ด) “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย IAA Consensus 13.10 บาท กำไรสุทธิ Q3/67 ที่ 83 ล้านบาท +15%QoQ,+55% YoY ปัจจัยหนุนจากยอดขายรวมเพิ่มขึ้นจากทั้งสาขาเดิม-สาขาใหม่ และขยายช่องทาง 7-11 วางขายขนมปังเนยโสดกระแสตอบรับดี GPM อยู่ที่ 65% ใกล้เคียงเดิม QoQ, YoY แต่ SG&A ลดลง แนวโน้ม Q4/67 มีแผนขยาย 1-2 สาขา และเพิ่มช่องทางบนสายการบินไทยส่งผลบวกต่อกำไรโตทั้ง QoQ,YoY ตลาดคาดกำไรปี 67-68 ที่ 276 ล้านบาท +55%YoY และ 320 ล้าน บาท +16%YoY
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (11 ธ.ค. 67)
Tags: วีระวัฒน์ วิโรจน์โภคา, หุ้นไทย