สหพันธ์ค้าปลีกแห่งชาติของสหรัฐฯ (NRF) เปิดเผยว่า มีชาวอเมริกันจำนวนมากถึง 197 ล้านคนที่จับจ่ายซื้อสินค้าในช่วงเวลา 5 วันตั้งแต่วันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving Day) จนถึงไซเบอร์มันเดย์ (Cyber Monday) ในปีนี้
NRF จำนวนนักชอปในปีนี้สูงกว่าที่คาดไว้ที่ 183.4 ล้านคน แต่ยังคงต่ำกว่าระดับ 200 ล้านคนในช่วงเทศกาลปี 2566
ในช่วงเทศกาลดังกล่าว ผู้บริโภคใช้จ่ายเงินโดยเฉลี่ย 235 ดอลลาร์ ซึ่งสูงกว่าเมื่อปี 2566 ประมาณ 8 ดอลลาร์ โดยของขวัญที่ซื้อมากที่สุดคือเสื้อผ้าและเครื่องประดับ รองลงมาคือของเล่น และของใช้ส่วนตัว
ข้อมูลดังกล่าวเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความสำเร็จของบรรดาบริษัทค้าปลีกที่ใช้กลยุทธ์ลดแลกแจกแถมในช่วงเทศกาลปีนี้ และสามารถดึงดูดใจผู้บริโภคที่ต้องการราคาสินค้าที่คุ้มค่า
แมทธิว เชย์ ประธาน NRF กล่าวว่า “แม้ว่าช่วงเวลาในการชอปปิงปีนี้จะสั้นและมีหลายบริษัทได้เสนอโปรโมชันลดราคาไปแล้วก่อนหน้านี้ แต่จำนวนผู้ซื้อในปีนี้สูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้”
อย่างไรก็ดี NRF คาดว่าในระยะเวลาเพียง 26 วันระหว่างวันขอบคุณพระเจ้าและเทศกาลคริสต์มาสปีนี้ ยอดขายอาจจะเพิ่มขึ้นไม่มากนัก
ทั้งนี้ วันแบล็กฟรายเดย์ (Black Friday) เป็นอีกหนึ่งวันที่มีคนนิยมซื้อสินค้ามากที่สุดในเทศกาลขอบคุณพระเจ้า โดยมีผู้บริโภคราว 81.7 ล้านคนเข้ามาชอปปิงในร้านค้า และราว 87.3 ล้านคนซื้อของทางออนไลน์
ส่วนข้อมูลจากมาสเตอร์การ์ด สเปนดิงเพาส์ (Mastercard SpendingPulse) ระบุว่า ยอดขายอีคอมเมิร์ซในสหรัฐฯ พุ่งขึ้น 14.6% ในวันแบล็กฟรายเดย์ ขณะที่ยอดขายในร้านค้าเพิ่มขึ้น 0.7% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ธ.ค. 67)
Tags: Thanksgiving day, ชาวอเมริกัน, วันขอบคุณพระเจ้า