ราคาหุ้น BANPU ปรับตัวขึ้น 2.59% หรือเพิ่มขึ้น 0.15 บาท มาที่ 5.95 บาท มูลค่าซื้อขาย 205.67 ล้านบาท เมื่อเวลา 10.42 น. จากราคาเปิด 5.95 บาท ราคาสูงสุด 6.00 บาท ราคาต่ำสุด 5.85 บาท
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ว่า บมจ.บ้านปู (BANPU) ถึงเวลาเข้าซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.50 บาท มองกำไรจากการดำเนินงานในปี 68 จะเติบโต 5 เท่าจากปีนี้ จากธุรกิจถ่านหินที่มีเสถียรภาพ และธุรกิจก๊าซที่ได้ผลดีจากราคาที่ค่อยๆ ปรับสูงขึ้น
เราคาดว่าปัจจัยผลักดันราคาหุ้น BANPU ตั้งแต่ไตรมาส 4/67 เป็นต้นไป คือราคาก๊าซที่ฟื้นตัว ราคาถ่านหินเริ่มมีเสถียรภาพ การควบคุมต้นทุน และกำไรที่ฟื้นตัว หลังจากราคาหุ้นลดลง 17% หลังผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 ออกมา เรามองว่าที่ราคาหุ้นปัจจุบันเป็นโอกาสที่ดีในการเข้า “ซื้อ”
ราคาหุ้น BANPU ร่วงลง 17% หลังจากผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 ออกมาน่าผิดหวังจากราคาถ่านหินออสเตรเลียที่ลดลง ปริมาณการขายถ่านหินโดยรวมที่ต่ำกว่าคาด และค่าใช้จ่ายภาษีที่สูงกว่าคาด เราจึงปรับลดประมาณการกำไรลง 10% ในปี 67-68 สะท้อนผลการดำเนินงานไตรมาส 3/67 และปริมาณการขายถ่านหินที่ลดลง เราปรับลดราคาเป้าหมาย (ปีฐาน 68) ลงจาก 8.0 บาท เป็น 7.50 บาท
แต่อย่างไรก็ตามยังคงคำแนะนำ ซื้อ BANPU ด้วยคาดว่าราคาหุ้นจะฟื้นตัวในไตรมาส 4/67 จาก 1.ราคาก๊าซธรรมชาติในสหรัฐฯ อยู่ที่ 2.8 เหรียญสหรัฐ/mmbtu ในไตรมาส 4/67 เทียบกับ 2.2 เหรียญสหรัฐ ในช่วง 9 เดือนของปี 67 เนื่องจากแนวโน้มอุปสงค์ที่ปรับตัวดีขึ้น 2. ราคาถ่านหิน NEX ยังคงทรงตัวที่ระดับสูงที่ 140 เหรียญสหรัฐ/ตัน เนื่องจากความต้องการถ่านหินของจีนที่ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และอุปทานที่จำกัด 3. การปรับปรุงประสิทธิภาพและการควบคุมต้นทุนทำให้ต้นทุนการผลิตลดลง และ 4. เราคาดว่ากำไรจะฟื้นตัวแข็งแกร่งที่ 21% ในปี 68-69
ตลาดก๊าซมีแนวโน้มดีขึ้น
ราคาแก๊สธรรมชาติสหรัฐฯ ในปัจจุบันอยู่ที่ 3.2 เหรียญสหรัฐ/mmbtu เทียบกับค่าเฉลี่ย 4QTD ที่ 2.8 เหรียญสหรัฐ และ 2.2 เหรียญสหรัฐ ในงวด 9 เดือน ปี 67 เราเชื่อว่าไม่เพียงแต่จะมีสาเหตุจากฤดูหนาวเท่านั้น แต่ยังมาจากปัจจัยพื้นฐานที่ดีขึ้นด้วย นั่นคือ การส่งออก LNG หรือโรงงานแปรรูปก๊าซธรรมชาติเหลวของสหรัฐฯ กำลังขยายตัว ซึ่งส่งผลให้ความต้องการแก๊สธรรมชาติของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น เราคงสมมติฐานราคาแก๊ส Henry ของสหรัฐฯ ไว้ที่ 2.5, 2.8, 3.0 เหรียญสหรัฐต่อ mmbtu ในปี 67-69
BANPU ยังคงมุ่งเน้นการบริหารต้นทุนเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพ สำหรับธุรกิจถ่านหินออสเตรเลีย ต้นทุนต่อหน่วยลดลงจาก A$173/tonne ในปี 66 เหลือ A$151 ในปี 67 ต้นทุนสำหรับธุรกิจในอินโดนีเซียลดลงจาก 60 เหรียญสหรัฐ/ตัน เป็น 57 เหรียญสหรัฐ/ตัน ในปี 67 มาตรการด้านต้นทุนบางส่วน ได้แก่ การลดระยะทางในการขุดลอกหน้าดิน การลดอัตราการขุดลอกหน้าดิน เพิ่มผลผลิต การปรับโครงสร้างสำนักงานใหญ่และสำนักงานภูมิภาค และการจัดการการลงทุนและการควบคุมต้นทุนที่มีวินัยมากขึ้น
เราคาดว่ากำไรของ BANPU จะฟื้นตัวจากที่เพียง 2 พันล้านบาทในปีนี้ เป็น 6.6 พันล้านบาท ในปี 69 โดยปัจจัยหลักคือราคาก๊าซที่เพิ่มสูงขึ้นตามที่กล่าวข้างต้น ปริมาณถ่านหินเพิ่มขึ้น 3% ต่อปี และราคาถ่านหินมีเสถียรภาพ ต้นทุนต่อหน่วยที่ลดลง จากอัตราการใช้ประโยชน์และมาตรการควบคุมต้นทุนที่เพิ่มขึ้น และการสนับสนุนจากโครงการที่ดักจับ (Capture), ใช้ประโยชน์ (Utilize) และ เก็บกัก (Sequester) ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)ที่เพิ่มขึ้น
โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (04 ธ.ค. 67)
Tags: BANPU, บ้านปู, หุ้นไทย