รัฐบาลฝรั่งเศสส่อล้ม หลังฝ่ายซ้าย-ขวาจับมือยื่นมติไม่ไว้วางใจ

รัฐบาลฝรั่งเศสส่อแววล้มในสัปดาห์นี้ หลังพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัดและฝ่ายซ้ายยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีมิเชล บาร์นิเยร์ เมื่อวันจันทร์ (2 ธ.ค.)

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า นักลงทุนตอบโต้ด้วยการเทขายสินทรัพย์ฝรั่งเศสทันที ขณะที่ประเทศเศรษฐกิจอันดับสองของยูโรโซนแห่งนี้กำลังจมดิ่งสู่วิกฤตการเมืองครั้งใหม่ ทำให้เกิดข้อกังขาว่างบประมาณประจำปีจะผ่านสภาหรือไม่

มารีน เลอเปน ผู้นำพรรคแนวร่วมแห่งชาติ (RN) แถลงต่อผู้สื่อข่าวในรัฐสภาว่า “ประชาชนชาวฝรั่งเศสทนไม่ไหวแล้ว” โดยระบุว่า บาร์นิเยร์ที่เพิ่งรับตำแหน่งนายกฯ เมื่อต้นเดือนก.ย.นั้น กลับทำให้สถานการณ์ย่ำแย่ลงและจำเป็นต้องถูกปลดออก “พวกเราจึงขอเสนอญัตติไม่ไว้วางใจรัฐบาล”

หากไม่มีอะไรพลิกโผในนาทีสุดท้าย รัฐบาลผสมอันเปราะบางของนายกฯ บาร์นิเยร์จะเป็นรัฐบาลฝรั่งเศสชุดแรกที่ถูกโค่นด้วยการอภิปรายไม่ไว้วางใจนับตั้งแต่ปี 2505

สมาชิกรัฐสภาพรรค RN และฝ่ายซ้ายรวมกันมีเสียงมากพอที่จะโค่นนายกฯ บาร์นิเยร์ได้ โดยเลอเปนยืนยันว่า พรรคของเธอจะร่วมลงมติสนับสนุนญัตติไม่ไว้วางใจของพรรคร่วมฝ่ายซ้าย นอกเหนือจากญัตติของ RN เอง โดยคาดว่าจะมีการลงมติในวันพุธนี้ (4 ธ.ค.)

พรรคการเมืองต่าง ๆ ได้ยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ หลังนายกฯ บาร์นิเยร์ประกาศเมื่อวันจันทร์ว่าจะผลักดันร่างกฎหมายประกันสังคมผ่านสภาโดยไม่มีการลงมติ เนื่องจากข้อเสนอประนีประนอมในนาทีสุดท้ายไม่สามารถดึงเสียงสนับสนุนจาก RN ได้

“นี่คือการลิดรอนประชาธิปไตยครั้งแล้วครั้งเล่า เราจำเป็นต้องลงโทษรัฐบาล” มาติลด์ ปาโนต์ จากพรรคฝ่ายซ้ายลาฟร็องแซ็งซูมีซ (France Unbowed) กล่าว “บ้านเมืองกำลังจมอยู่ในวังวนการเมือง เพราะรัฐบาลของมิเชล บาร์นิเยร์ และการนำของประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครง”

ทั้งนี้ ส่วนต่างระหว่างผลตอบแทนพันธบัตรฝรั่งเศสกับเยอรมนีถ่างกว้างขึ้น ขณะที่สกุลเงินยูโรก็ถูกเทขายหนัก

นับแต่ปธน.มาครงประกาศยุบสภากะทันหันเมื่อต้นเดือนมิ.ย. ดัชนี CAC 40 ของฝรั่งเศสก็ดิ่งลงเกือบ 10% ซึ่งเป็นการร่วงหนักที่สุดในบรรดาประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของสหภาพยุโรป

ด้านนายกฯ บาร์นิเยร์วิงวอนสมาชิกรัฐสภาไม่ให้สนับสนุนการลงมติไม่ไว้วางใจรัฐบาล

“เราอยู่ในห้วงเวลาแห่งการตัดสินใจ … ชาวฝรั่งเศสจะไม่ให้อภัยหากเราเห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตนยิ่งกว่าอนาคตของชาติ” นายกฯ บาร์นิเยร์กล่าว ขณะมอบชะตากรรมของรัฐบาลไว้ในกำมือของสภาที่แตกแยก อันเป็นผลพวงจากการยุบสภาเลือกตั้งใหม่ที่ไร้ข้อสรุปของปธน.มาครงเมื่อเดือนมิ.ย.

รัฐบาลเสียงข้างน้อยของนายกฯ บาร์นิเยร์ต้องพึ่งพาเสียงสนับสนุนจากพรรค RN เพื่อความอยู่รอด แต่ร่างกฎหมายงบประมาณที่มุ่งคุมการขาดดุลที่พุ่งทะยานด้วยการขึ้นภาษีและตัดงบในวงเงิน 6 หมื่นล้านยูโร (6.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) นั้น กลับทำลายสายสัมพันธ์อันเปราะบางนี้ลง ทั้งสองฝ่ายต่างชี้นิ้วใส่กัน โดยอ้างว่าฝ่ายตนได้พยายามทุกวิถีทางเพื่อหาข้อตกลงและเปิดรับการเจรจาแล้ว

แหล่งข่าวใกล้ชิดนายกฯ บาร์นิเยร์เผยว่า นายกฯ ยอมอ่อนข้อให้เลอเปนในประเด็นสำคัญหลายเรื่อง และการลงมติโค่นรัฐบาลจะทำให้เลอเปนสูญเสียผลประโยชน์ที่ได้มาทั้งหมด

“เธอพร้อมจะทิ้งทุกอย่างที่ได้มางั้นหรือ” แหล่งข่าวให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์

หากมีการลงมติไม่ไว้วางใจ นายกฯ บาร์นิเยร์จำต้องยื่นใบลาออก แต่ปธน.มาครงอาจขอให้เขาและคณะรัฐบาลรักษาการต่อไปเพื่อบริหารงานประจำวัน ระหว่างที่สรรหานายกฯ คนใหม่ ซึ่งคงต้องรอถึงปีหน้า

ทางออกหนึ่งคือ ปธน.มาครงอาจแต่งตั้งรัฐบาลเทคโนแครตที่ไม่มีนโยบายการเมือง เพื่อหวังว่าจะรอดพ้นการลงมติไม่ไว้วางใจได้ อย่างไรก็ตาม การยุบสภาเลือกตั้งใหม่จะทำไม่ได้จนกว่าจะถึงเดือนก.ค.ปีหน้า

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (03 ธ.ค. 67)

Tags: , ,
Back to Top